Page 15 - จากบุตรช่างสู่บัลลังก์ศาล
P. 15
เก่าไปทั้งๆ ที่มือเจ็บนั้นแหละ จะเป็นตายอย่างไรก็ช่างมันไม่สนแล้ว เพราะไม่มี ผมก็ยังคงมีลักษณ์บวมๆ โดยรอบเล็กน้อยอยู่ แต่ก็คิดว่าผมผ่านจุดที่ต้องใช้งาน
อะไรจะเสียแล้ว เรียกได้ว่า “ทิ้งไพ่หมดหน้าตัก” เลยที่เดียว คิดในใจว่าจะบอก หนักมันมาแล้ว
เรื่องนี้กับทางบ้านก็ไม่ได้เด็ดขาดจะท าให้ทางบ้านอันจะท าให้ท่านเสียก าลังใจ ๔. อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ผมอยากจะเล่าอย่างมาก เพราะผมเห็นว่าเป็น
อย่างยิ่ง เพราะความมัวแต่เล่นกีฬาเพื่อความสนุกของผมแท้ๆ ซึ่งความบาดเจ็บ
เหตุการณ์ที่สามารถวัดความส าเร็จของผมในวันนี้ได้เลยที่เดียวครับ และเป็น
ไม่ได้เกิดจากการหักโหมในการเตรียมตัวสอบของผมแต่อย่างใดเลย จนผ่านไปอีก เหตุการณ์ส าคัญที่พูดได้เลยว่าคือแรงบันดาลใจของผมในการคิดจะเขียนหนังสือ
สองสามวันผมเริ่มเขียนได้ถนัดขึ้น หลังได้รับบาดเจ็บดังกล่าวผมต้องเก็บตัวอ่าน เล่มนี้ขึ้นเลยก็ว่าได้ เหตุการณ์ที่ว่าก็คือกลิ่นหมูปิ้งในห้องสอบ ต้องบอกก่อนเลย
หนังสืออยู่แต่ที่ห้องเป็นเกือบสองสัปดาห์ และแบ่งเวลาไปโรงพยาบาลตามที่ ว่า ตัวผมนั้นเป็นคนสมาธิสั้น หากมีอะไรมากระทบซักเล็กน้อยก็สมาธิที่ตั้งไว้แน่ว
แพทย์นัดอีก หากลองฝึกเขียนข้อสอบจับเวลาจริงๆ จะรู้สึกปวดมาก และมือล้า แน่ก็หลุดไปแล้ว ต้องเริ่มกลับมารวบรวมกันใหม่ ใช้เวลาอีกสักพัก เรื่องเกี่ยวกับ
ง่ายกว่าเดิม แต่ผมคิดว่าถ้ามัวแต่อ่อนแอเช่นนี้คงอ่านหนังสือและจดโน้ตย่อ กับ กลิ่นหมูปิ้งนี้ก็เช่นกัน เกิดขึ้นในวันสอบวันแรก นั่นก็คือเป็นวันสอบวิชากฎหมาย
ท าข้อสอบเก่าไปด้วยไม่ทันตามเป้าหมายแน่ๆ จนผ่านไปอีกสองสัปดาห์ซึ่งเริ่ม อาญาและกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งต้องใช้ความเร็วอย่างมากอยู่แล้วเพราะ
เข้าสู่ต้นเดือนสิงหาคมแล้ว (เวลาเริ่มใกล้สอบเข้าไปทุกที) แต่นิ้วมือผมก็ยังคง ข้อสอบกฎหมายอาญาจะมีประเด็นเยอะมาก จะต้องรวบรวมสติสัมปชัญญะทุก
บวมไม่ยอมเข้ารูปเดิมปกติสักที เวลางอก็จะมีอาการเสียวๆ เจ็บแปลบๆ แต่ก็พอ อย่างเขียนตอบข้อสอบลงไป เมื่อเริมท าข้อสอบไปได้สักพัก (หมายถึงเวลาเริ่มลง
เริ่มเขียนได้เร็วมากขึ้นแล้ว เหตุการณ์ในครั้งนี้ เมื่อมานั่งคิดใคร่ครวญดูดีๆ แล้ว
จึงได้แต่เพียงท าใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามฝึกเขียนอยู่ทุกวัน หาก มือเขียนจริงของผม คงประมาณผ่านไปเกือบ ๑ ชั่วโมงหลังจากเริ่มการสอบแล้ว
เพราะผมจะอ่านข้อสอบทั้ง ๑๐ ข้อให้จบก่อนแล้วค่อยเริ่มลงมือเขียนในข้อแรก)
เหนื่อยล้าพักมือบ้าง ค่อยๆ แก้ปัญหากันไป การฝึกท าข้อสอบเก่าก็ต้องทนเอา ในขณะที่ผมอยู่ในห้วงแห่งความคิด ก็ได้กลิ่นคล้ายๆ กับการเลอออกมา ไม่เพียง
จนถึงสอบวันแรกก็ยังมีอาการปวดอยู่เล็กน้อย แต่ ณ เวลานั้นต้องไม่คิดอะไรที่ เท่านั้นยังเป็นกลิ่นหมูปิ้ง ซึ่งมาจากผู้เข้าสอบที่นั่งข้างหน้าผม ยังดีที่ไม่ใช่ติดๆ กับ
เป็นลบกับตัวเองแล้ว ผมก็คิดแค่ว่า “เดี๋ยวมันก็ผ่านพ้นไป” และผมย้ าอยู่ในใจ ผม ยังมีผู้หญิงอีกคนนั่งคั่นหน้าผมอยู่ ในระยะแรกๆ ผมได้รับกลิ่นแรงขึ้นเรื่อยๆ
เพียงว่าต้องเขียนตอบข้อสอบให้ทันครบทุกข้อ จนท าให้ผมลืมความเจ็บปวด จนท าให้ผมเสียสมาธิหมด จนเกือบคิดอะไรไม่ออก และรู้สึกร้อนรนกระวน
และความเหนื่อยความล้าไปได้เลย หลังสอบเสร็จผมกลับไปพบแพทย์ตามนัด จน กระวายใจอย่างยิ่ง เพราะช่วงนั้นหยุดปากกาเป็นเวลาสักพัก พอได้กลิ่นเป็นระยะ
แพทย์ยังต้องบอกกับผมว่า ณ เวลานี้จะกลับมาดามด้วยไม้ก็คงไม่ทันแล้ว นิ้วคง เวลานานเข้าไม่หายไปสักที อยู่ๆ จิตใจก็เริ่มท้อกับการสอบครั้งนี้ เพราะผมไม่ได้
คืนรูปปกติไม่ได้เสียแล้ว และมาถึงทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าข้อต่อนิ้วกลางข้างขวาของ
เตรียมอุปกรณ์อะไรนอกจากปากกากับดินสอและยางลบเข้ามาในห้องสอบเลย