Page 25 - จากบุตรช่างสู่บัลลังก์ศาล
P. 25
ให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าวข้างต้นได้อย่างรอดปลอดภัยไร้กังวลจากครอบครัวแล้ว เกลียวกันอย่างเหนียวแน่นตลอดมา จนมาถึงวันนี้ที่ต่างคนต่างแยกย้ายไปท างาน
ครับ ราชการและเอกชนตามจังหวัดต่างๆ ก็ยังคอยติดต่อไถ่ถามสาระทุกข์สุขดิบกันอยู่
เป็นเสมอ
การคบเพื่อน
ความส าคัญของการท ากิจกรรม
ผมปฏิเสธค ากล่าวที่ว่า “คนเราจะอยู่โดดเดี่ยวไม่ได้” จริงๆ ถึงแม้ผมจะ
ตั้งใจเรียนแค่ไหน เนื่องจากขาดจากอ้อมอกพ่อแม่มาใหม่ๆ ยังเครื่องร้อนอยู่ก็ ผมขอกล่าวไว้ ณ ที่นี้เลยว่า สิ่งส าคัญอย่างหนึ่งที่ท าให้ผมอยู่รอด
หวังจะเรียนจบให้เร็วที่สุดเพื่อความภูมิใจของทางบ้าน แต่ผมก็ยังโชคดีที่ได้พบ ปลอดภัยกับการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมาจนถึงวันนี้ได้ ก็เนื่องด้วยการเข้าร่วม
เจอกับเหล่าเพื่อนที่คณะ ซึ่งพวกเราจะตั้งชื่อเรียกกันเท่ๆ ว่า “แก๊งสายลม” ชื่อนี้ ท ากิจกรรมของคณะและทางมหาวิทยาลัยอยู่เสมอมา ใช่แล้วครับ กิจกรรม
ได้มาเพราะเพื่อนในแก๊งคนหนึ่งเป็นคนชอบพูดชอบเจรจา ซึ่งศัพท์ทางเหนือของ สามารถท าให้เราเกิดการเรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีปกติสุข เสริมสร้าง
คนพูดเก่ง ก็คือ “ขี้ลม” และเพื่อนคนอื่นๆ ก็เป็นคนชอบพูดชอบเจรจากันไม่ ทักษะมนุษยสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่นได้ ผมจึงคิดว่ากิจกรรมมีส่วนอย่างยิ่งในการน าไป
พอๆ กันเลย จนมีบางครั้งที่นั่งจับกลุ่มคุยกันใต้อาคารคณะเสียงดังอย่างมาก จน ปรับการใช้ชีวิตผมตั้งแต่ปริญญาตรี และน าไปใช้ต่อในการฝึกงานในหน่วยงาน
เพื่อนๆ คนอื่นรวมทั้งอาจารย์ต้องมาตักเตือน กลุ่มพวกผมจะมีกันทั้งหมด ราชการทางกฎหมายเมื่อผมอยู่ชั้นปีที่ ๔ นั่นก็คือ ส านักงานอัยการจังหวัด
ประมาณ ๑๐ กว่าคน ซึ่งตอนปีหนึ่งก็จะมีเยอะอยู่ แต่พอขึ้นชั้นปีที่ ๒ มาก็จะ เชียงใหม่ ต่อมาก็ปรับใช้กับการเรียนเนติบัณฑิต และท้ายที่สุดคือชีวิตการท างาน
เริ่มย้ายคณะหรือย้ายมหาวิทยาลัยกันไปบ้าง แต่จนจบชั้นปีที่ ๔ ก็จะยังคงรวบ เพราะกิจกรรมท าให้เราเรียนรู้ถึงการ “ใจเขา ใจเรา” ท าให้เรามีทัศนคติที่ดีต่อ
ตัวกันถึง ๑๐ คนอยู่ และตลอดช่วงเวลาที่เรียนด้วยกัน ๔ ปี ก็จะจับกลุ่มกันอย่าง งานและต่อเพื่อนร่วมงาน ไม่ตึงหรือหย่อนจนเกินไป รวมถึงท าให้เรามีภาวะทาง
เหนียวแน่นลงเรียนแต่ละวิชาใน Section เดียวกันตลอด ท าให้เกิดการ อารมณ์ที่มั่นคงและพร้อมที่จะแก้ปัญหาอุปสรรคที่มักจะเข้ามาในทุกย่างก้าวของ
แลกเปลี่ยนความรู้และนัดกันอ่านหนังสือร่วมกัน ผมดีใจที่ได้มีเพื่อนแท้กลุ่มนี้ ชีวิตได้ทุกเมื่อ ผมจึงมีความกล้าที่จะก้าวผ่านความกลัวและความอายไปเสนอตัว
อย่างมาก เพื่อนกลุ่มนี้แม้จะเป็นคนชอบสังสรรค์สักหน่อย แต่ก็ไม่เคยบังคับให้ กับรุ่นพี่หรือกับอาจารย์ท ากิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานกีฬาชั้นปี ๑ งานกีฬา
ผมต้องไปด้วยเสมอ และจะคอยดูแลช่วยเหลือกันพากันกลับที่พักอย่างปลอดภัย มหาวิทยาลัย งานประกวดดนตรีภายในคณะ งานค่ายนักกฎหมายรุ่นใหม่
ทั้งยังมักจะคอยชวนกันขึ้นค่ายไปท ากิจกรรมเป็นประโยชน์ต่างๆ ดังเช่นที่ จนกระทั่งงานค่ายอาสาพัฒนาและเผยแพร่กฎหมาย ปีละ ๑ ครั้ง ซึ่งผมจะไป
ยกตัวอย่างมาข้างต้น ท าให้ได้พวกเราได้มีโอกาสร่วมทุกข์ร่วมสุขจึงรักใคร่กลม ร่วมทุกครั้ง จน ๒ ปีหลัง ผมได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานฝ่ายเผยแพร่