Page 3 - จากบุตรช่างสู่บัลลังก์ศาล
P. 3
หมวด ๒ ความเบื้องต้น บางครั้งที่ผมรู้สึกถึงขั้นที่ว่า เมื่อเจอปัญหาหนักๆ ผมจะรู้สึกชินชาไปเลย สามารถ
ตั้งหลักสู้กับมันได้โดยไม่ตื่นตระหนกตกใจแต่อย่างใดเลย และยังเชื่อด้วยว่าใน
ตามค าน าที่ผมได้กล่าวมาแล้วว่า หนังสือเล่มนี้เกิดจากค ามั่นที่ผมได้ให้
ไว้กับตัวเองหลังวันที่สอบข้อเขียนผู้ช่วยผู้พิพากษาเสร็จ เนื่องจากมองย้อนกลับ วันที่ผมเข้าสอบข้อเขียนผู้ช่วยผู้พิพากษา ประจ าปี ๒๕๕๘ ผมยังคิดว่าความรู้
ของผมยังคงไม่พอที่จะไปต่อกรกับข้อสอบได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังยืนยันที่จะขอลอง
ไปแล้ว การสอบครั้งนี้ผมคิดว่าได้พบเจออุปสรรคมานานัปการ แต่ถึงกระนั้นก็คง
ดูสักตั้ง และในขณะที่จรดปากกาเขียนตอบข้อสอบอยู่นั้น จะมีเสียงเตือนที่ดัง
ไม่ยิ่งใหญ่อะไรไปกว่าเหล่านักสู้ชีวิตที่ประสบความส าเร็จมาก่อนผมมากมายนัก
แต่เพียงแค่อยากเล่าสู่กันฟังเพื่ออาจเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้ที่สนใจอยู่บ้างไม่ ก้องอยู่ในใจตลอดเวลาว่า “ต้องท าให้สุดความสามารถๆ” ในขณะเขียนจึงท า
มากก็น้อยเพียงเท่านั้นครับ แน่นอนว่า คนส่วนใหญ่หรือแทบจะทุกคนที่ประสบ ออกมาให้อย่างเต็มที่ ข้อมูลที่มีอยู่ในหัวเค้นมันออกมาให้มากที่สุด เรียบเรียงให้
ความส าเร็จในชีวิต ย่อมจะต้องเจอปัญหาและอุปสรรคที่แวะเวียนเข้ามาตามราย สละสลวยน่าอ่านมากที่สุดเท่าที่จะท าให้ดีที่สุด ณ ขณะนั้น ประกอบกับตั้งเป้าไว้
ในใจว่าต้องท าให้ครบทุกข้อ และเขียนให้ได้อย่างน้อยข้อละหน้าครึ่ง จนท าให้
ทางเสมอ แต่บุคคลน่าชื่นชมเหล่านั้นก็ผ่านพ้นมันไปได้ ผมจึงตั้งข้อสงสัยใน
เบื้องต้นว่า พวกเขาใช้อะไรกันหนาที่เป็นเครื่องช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตหรืออุปสรรค ความรู้สึกหลังออกจากห้องสอบมาไม่เสียใจเลยเพราะท าสุดความสามารถแล้ว
ต่างๆ เหล่านั้นไปได้ด้วยดี จนผมมาลองสมัครท างานจริง และเริ่มฝึกแก้ปัญหาใน และสุดท้าย ผลก็เป็นดังที่เราปรารถนาไว้จริงๆ ดังนั้น จึงมีค ากล่าวที่น่าฟังอยู่
การปฏิบัติที่เจอมา เริ่มจะจับทางได้ว่า สิ่งส าคัญหนึ่งที่จะเอาชนะปัญหาและ ประโยคหนึ่งที่ว่า “๙ ใน ๑๐ ของความรู้ ก็คือก าลังใจ” นั่นเองครับ
อุปสรรคไปได้ก็คือ “ใจ” ที่เข้มแข็ง มุ่งมั่นที่จะเอาชนะปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ผมคิดว่าชีวิตคือการเขียนบันทึกเล่มหนึ่ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและผ่าน
ที่เข้ามาให้ได้ เมื่อเขามีใจที่เข้มแข็งแล้ว ก็จะท าให้เริ่มมีสติคิดหาแนวทางแก้ไข พ้นไปอยู่ที่ปากกาในมือเราจะบรรจงให้เป็นอย่างไร และผมเชื่อว่าอย่างหนักแน่น
แล้ววางแผนเป็นขั้นเป็นตอนเพื่อด าเนินการให้ผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรค อีกประการหนึ่งว่า คนเราจะมีชีวิตที่มีความสุขกับการใช้ชีวิตตามเป็นอยู่ได้
เหล่านั้นไปให้ได้ และเมื่อเราเจอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ นาๆ มากๆ เข้า ก็จะ หรือไม่นั้น เชื่อว่าอยู่ที่เราใส่ใจกับเรื่องใดมากกว่า ส่วนผมคิดว่าก็คงท านอง
เริ่มรับมือได้กับทุกปัญหา ยิ่งบางปัญหาก็เป็นปัญหาเดิมๆ ที่เราเคยแก้ไขไปแล้ว เดียวกับคนอื่นทั่วๆ ไป ที่เห็นว่าเรื่องราวต่างๆ นาๆ ที่ผ่านเข้ามาชีวิตนั้น ควร
ก็จะง่ายยิ่งขึ้นและผ่านพ้นไปได้รวดเร็วขึ้น กับทั้งยังสามารถส่งชี้ทางสว่างให้แก่ จดจ าแต่สิ่งที่ดีๆ ไว้ เพื่อใช้ระลึกในภายหลังได้อย่างเป็นสุข แต่อย่างไรก็ดี ผมยัง
ผู้อื่นที่ยังไม่เคยพบเจอปัญหานั้นมาก่อนได้อีกด้วย เมื่อตั้งหลักคิดได้เช่นนี้ ผมก็ เห็นควรเก็บสิ่งเลวร้ายที่พานพบไว้เป็นบทเรียนไปด้วย จากที่ผมได้ท่องโลก
เริ่มเอามาประยุกต์ให้เข้ากับปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตประจ าวัน รวมไป โซเชียลได้ไปเจอค าคมหนึ่ง จ าแหล่งที่มาไม่ได้แล้ว ผมเห็นด้วยกับข้อความที่ว่า
ถึงการวางแผนเตรียมตัวสอบเนติบัณฑิตและผู้ช่วยผู้พิพากษาไปด้วยในตัว จนมี “ความส าเร็จ นั้น เราไม่จ าเป็นต้องทดลองเดินไปด้วยตนเอง แต่อาจศึกษาจาก