Page 22 - GES2205 นันทนาการเพื่อคุณภาพชีวิต
P. 22
22 | G E S 2 2 0 5 นั น ท น า ก า ร เ พื่ อ คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต
นันทนาการนั่นเอง แสดงให้เห็นว่านันทนาการมีมานานตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ยังไม่ได้เป็น
กระบวนการที่มีแบบแผนที่จัดบริการไว้ส าหรับมนุษย์อย่างในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประวัติสังเขป
ของนันทนาการตามล าดับยุคต่าง ๆ
1.2.1.1 นันทนาการยุคก่อนวัฒนธรรมโบราณ(Recreation in
Primitive Cultures)
ถ้าเราได้ศึกษาประวัติศาสตร์จะพบว่า เยาวชนในสมัยนั้นได้
ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อการด ารงชีวิต และเพื่อความเจริญเติบโต แข็งแรงของร่างกาย เขาได้
ศึกษาและฝึกหัดท าอาวุธต่าง ๆ เช่น หอก แหลม หลาว ไม้กระบอง ฯลฯ ส าหรับต่อสู้กับข้าศึกษา
ศัตรู ซึ่งมีทั้งมนุษย์ด้วยกันตลอดจนสัตว์ร้ายต่าง ๆ และในการหาเลี้ยงชีพก็จะต้องมีการล่าสัตว์ ตก
ปลา มีการฝึกการสร้างกระท่อมหยาบ ๆ ขึ้นอาศัย ฝึกท าเครื่องนุ่งห่มปกปิดร่างกาย ส่วน
เด็กผู้หญิง ในยุคนั้นก็เล่นหรือฝึกกิจกรรมเกี่ยวกับการเรือน ท าตุ๊กตา และท าเครื่องเล่นอื่น ๆ ซึ่ง
นับว่าจ าเป็นส าหรับสังคมในยุคนั้น ส่วนคนหนุ่มสาวก็ใช้กิจกรรมนันทนาการกว้างขวางขึ้น ผู้หญิง
และเด็ก ๆ บางเผ่าชอบร้องร าท าเพลง เล่านิทาน การเต้นร า บางครั้งก็มีกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การว่าย
น้ า การแข่งขันประลองความเร็ว ความแข็งแรง ความแม่นย า เป็นต้น สรุปแล้วเด็กในสมัยนี้
ประกอบกิจกรรมเลียนแบบคนหนุ่ม ๆ แต่คนหนุ่ม ๆ ท ากิจกรรมเพื่อจุดประสงค์ในการด ารงชีวิต
เด็ก ๆ เลียนแบบเพื่อความสนุกสนาน
1.2.1.2 นันทนาการในยุคกรีก(Recreation during the Greek
Period)
ยุคกรีกโบราณบูชานักรบ ซึ่งบรรดานักรบเหล่านี้เชื่อกันว่า
ร่างกาย (Body) จิตใจ (Mind) และน้ าใจ (Spirit) แยกกันอยู่คนละส่วน ในการฝึกจะต้องฝึกคนละ
อย่าง คนละวิธี ร่างกายก็ต้องฝึกให้แข็งแรง มีการเล่นยิมนาสติก จิตใจก็ต้องฝึกโดยอาศัยเหตุผล
ส่วนน้ าใจต้องฝึกโดยการใช้ดนตรีและจังหวะ (Music and Rhythm) แต่ต่อมาในยุครุ่งเรือง
(Golden Era) เชื่อกันว่า ทั้งสามอย่างนี้จะต้องอยู่ร่วมกัน แยกกันมิได้ โดยมีผู้กล่าวสนับสนุนว่า
“จิตใจที่ดีย่อมอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง” (A sound mind in a sound body)กรีกมีโรงเรียน 2 แห่ง
คือ Palestraและ Gymnasia ส าหรับเด็กเรียนมวยปล้ า วิ่ง กีฬาอื่น ๆ ส่วนนิทานนับเป็นกิจกรรม
นันทนาการที่นิยมกันหลังหยุดพักหลังจากออกก าลังกายแล้ว ชาวกรีกก็อาบน้ าแล้วเดินเล่นภายใน
บริเวณโรงเรียน หรือไม่ก็นั่งเล่นในสนามหญ้าคุยกันถึงเรื่องการเมือง และปรัชญา ต่อมาโรงเรียน
ทั้งสองแห่งนี้ก็ได้กลายเป็นศูนย์นันทนาการ (Recreation Centers) ของชาวกรีก และเป็นอันว่า