Page 126 - คู่มือหลักสูตรการพัฒนาสื่อการเรียนดิจิทัลด้วยระบบ VR AR และ MR
P. 126
เนื้อหาโครงสร้างหลักสูตรการฝึกทักษะการพัฒนาคอนเทนต์หลักสูตรฝึกอบรมด้วย VR AR และ MR
การใช้รถไฟฟ้าในประเทศไทย
กิจการรถไฟของไทยนั้น ได้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2429 ตรงกับรัตนโกสินทร์ศกที่ 105 ไทยได้ให้
สัมปทานแก่บริษัทชาวเดนมาร์กสร้างทางรถไฟสายแรกจาก กรุงเทพมหานคร ถึงสมุทรปราการ เป็นระยะทาง
21 กิโลเมตร ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2433 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าให้ตั้งกรม
รถไฟหลวงขึ้น โดยสังกัดกระทรวงโยธาธิการ เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2439 พระองค์เสด็จประกอบพระราช
พิธีเปิดการเดินรถไฟระหว่าง กรุงเทพมหานครถึงอยุธยา เป็นระยะทาง 71 กิโลเมตร ซึ่งทางการได้ถือเอาวันนี้
เป็นวันสถาปนากิจการรถไฟหลวง ปัจจุบันทางรถไฟที่สำคัญของประเทศไทยมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้นรวมสี่สาย คือ
สายเหนือ ถึงจังหวัดเชียงใหม่และสุโขทัย สายใต้ ถึงประเทศมาเลเซีย สายตะวันออก ถึงจังหวัดสระแก้ว และ
สายตะวันออกเฉียงเหนือ ถึงประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและอุบลราชธานี รวมเป็น
ระยะทาง 3,855 กิโลเมตร
ในส่วนของการใช้งานระบบรถไฟฟ้าของประเทศไทยนั้นหลายคนจะเข้าใจหรือคิดไปว่าเริ่มต้นในปี
พ.ศ. 2542 ให้บริการโดยบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า BTS
แต่ความจริงแล้ว ในประเทศไทยได้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าในระบบขนส่งมวลชนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 โดย
ระบบขนส่งที่ว่านั้นก็คือ รถราง นั้นเอง
รถรางถือเป็นหนึ่งในความทันสมัยที่เข้ามาในเมืองบางกอก แต่ถึงกระนั้นความเจริญที่ว่านี้ก็ยังไม่
เป็นที่นิยมใช้ของชาวบางกอกโดยทั่วไป เนื่องจากอัตราค่าโดยสารที่แพง แต่สำหรับคนที่มีฐานะส่วนหนึ่งก็ไม่
นิยมใช้เพราะใช้รถส่วนตัวจะสะดวกกว่า อีกทั้งยังไม่ต้องรอให้เสียเวลา ภาพสะท้อนของรถรางในสมัยนั้นจึงถือ
เป็นระบบขนส่งสำหรับคนบางกลุ่มเท่านั้น
ต้นกำเนิดของรถชนิดนี้เริ่มตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 พ.ศ. 2430 เริ่มมีรถราง โดย Captain Loftus,
Admiral Richelieu เป็นผู้ขอพระราชทานอนุญาตตั้งบริษัทดำเนินการ เปิดบริการเมื่อ 22 กันยายน พ.ศ.
2431 นับเป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่เป็นรถรางเทียมม้าคือใช้ม้า 8 ตัว แยกเป็น 2 พวง ๆ ละ 4 ตัว ลาก
รถให้วิ่งไปตามราง เส้นทางเดินรถวางรางตั้งแต่หลักเมืองไปตามถนนเจริญกรุงจนถึงถนนตกเป็นเส้นทางที่ยาว
มากและเป็นรถรางสายแรกของเมืองไทย จึงต้องการเปลี่ยนม้าเป็นชุดๆ ตามระยะทาง มีการเก็บค่าโดยสาร
แพงสำหรับสมัยนั้น คือ ประมาณ 5 สตางค์ทำให้กิจการในช่วงแรกประสบกับการขาดทุน และขายกิจการต่อ
ให้กับบริษัทจากประเทศอังกฤษแต่ก็ขาดทุนอีก
ต่อมาบริษัทชาวเดนมาร์กโดยวิศวกร Westenholz มารับช่วงกิจการและเปลี่ยนมาใช้พลังงาน
ไฟฟ้าแทนในปี พ.ศ. 2437 ในเวลานั้นเมืองไทยมีการสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว จึงสร้างรถไฟฟ้ามาใช้ทดแทนรถราง
แบบม้าลาก แต่คนก็เรียกว่า รถรางมากกว่ารถไฟฟ้า ภาพติดตาคนสมัยนั้นคือ จะเห็นรางรถไฟฟ้าเคียงคู่ไปกับ
เสาไฟฟ้า โดยมีคานเหล็กยื่นออกมาสำหรับติดสายไฟฟ้า ตัวรถเป็นสีแดงทั้งคัน รถรางที่วิ่งในถนนเจริญกรุงมี
รายงานการพัฒนาสื่อการเรียนดิจิทัลด้วยระบบ VR AR และ MR เพื่อช่วยพัฒนาทักษะวิศวกรซ่อมบ ารุงระบบราง หน้า | 123