Page 34 - Demo
P. 34

18
เครือข่ํายสังคมและกํารวิเครําะห์เป็นสําขําวิชําสหวิทยํากํารโดยแท้อันปรํากฏข้ึนจําก จิตวิทยําสังคมสังคมวิทยําสถิติศําสตร์และทฤษฎีกรําฟจอร์จซิมเมิล (Georg simmel) ได้แต่งตํารํา เกี่ยวกับทฤษฎีเชิงโครงสร้ํางในสังคมวิทยําเพ่ือเน้นให้เห็นถึงพลวัตของควํามสัมพั นธ์ไตรภําคและ "ข่ํายโยงใยของกํารเข้ําร่วมกลุ่ม" จําค็อบโมเรโน (Jacob moreno) ก็มีช่ือเสียงในเร่ืองกํารพัฒนํา ผังสังคมมิติ (sociogram) ข้ึนเป็นคนแรกในคริสต์ทศวรรษ 1930 เพ่ือศึกษําควํามสัมพันธ์ระหว่ําง บุคคลแนวกํารศึกษําเหล่ําน้ีถูกทําให้เป็นระเบียบแบบแผนเชิงคณิตศําสตร์ในคริสต์ทศวรรษ 1950 จํากน้ันทฤษฎีและวิธีกํารต่ํางๆของเครือข่ํายสังคมก็เป็นที่แพร่หลํายในสังคมศําสตร์และพฤติกรรม ศําสตร์ในคริสต์ทศวรรษ 1980
สังคมเครือข่ํายไม่ว่ําจะเป็น Myspace, Hi5, หรือ Facebook ซึ่งสังคมประเภทน้ีเรําเรียก อีกอย่ํางหนึ่งได้ว่ําสังคมเสมือน “Virtual communities” โดยกํารขยํายตัวของสังคมประเภทนี้ เป็นไปด้วยควํามรวดเร็วอย่ํางสูงเป็นกํารขยํายตัวแบบทวีคูณอย่ํางเช่นหํากเรํารู้จักเพ่ือนคนหน่ึงเรําก็ จะรู้จักเพื่อนของเพื่อนไปในตัวด้วยและหํากเรํารู้จักเพื่อนของเพ่ือนแล้วในอนําคตต่อมําเรําก็จะรู้จัก เพ่ือนของเพ่ือนของเพื่อนอย่ํางแน่นอนซ่ึงกํารขยํายตัวดังกล่ําวเป็นกํารขยํายตัวเหมือนใยแมงมุมท่ี ขยํายตัวออกไปเป็นทอดๆโยงไปโยงมําและหํากเรําลองพิจํารณํากันแล้วจะพบว่ํากํารขยํายสังคม ประเภทนี้อย่ํางรวดเร็วเป็นผลมําจํากแรงจูงใจบํางอย่ํางโดยท่ี Peter kollock ได้ให้กรอบจํากัดควําม เรื่องแรงจูงใจสําหรับกํารเข้ํามํามีส่วนร่วมในสังคมเครือข่ํายน้ีว่ํามีอยู่ด้วยกัน 4 เหตุผลดังนี้
1. Anticipated reciprocity ควํามคําดหวังจํากกํารให้และรับนั่นคือกํารท่ีผู้ใช้บํางคนได้ เข้ํามํา Contribute และให้ข้อมูลควํามรู้บ่อยๆก็มีแรงจูงใจมําจํากเขําเองก็อยํากที่จะได้ข้อมูลควํามรู้ อ่ืนๆกลับคืนมํามํากเช่นกัน
2. Increased recognition ควํามต้องกํารมีช่ือเสียงและเป็นที่จดจําในสังคมเครือข่ํายน้ันๆ ซึ่งแน่นอนว่ําช่ือเสียงหรือกํารถูกยกย่องชมเชยและถูกจดจํานั้นก็คือพ้ืนฐํานเบ้ืองต้นของกํารดํารงชีวิต น่ันคือควํามต้องกํารด้ํานควํามรักน่ันเอง
3. Sense of efficacy ควํามภําคภูมิใจเม่ือส่ิงที่เขียนเกิดผลกระทบท่ีดีขึ้นแน่นอนว่ําเรําเอง ก็คงจะรู้สึกดีไม่น้อยหํากสิ่งที่เรําคิดข้ึนมําถูกนําไปใช้สร้ํางประโยชน์ทั้งในระดับกลุ่มเล็กๆหรือในระดับ องค์กรสําหรับหลํายๆคนมักจะติดใจและกลับเข้ํามําในสังคมเครือข่ํายน้ีอีกก็เพรําะควํามคิดเห็นหรือ ข้อเสนอแนะจํากเขําเองได้รับกํารยอมรับเกิดเป็นควํามรู้ขึ้นและสํามํารถนําไปใช้แก้ปัญหําได้จริงๆซ่ึง ส่ิงน้ีก็กลํายเป็นแรงบันดําลใจให้กับตัวเขําเองในกํารเป็นผู้เสนอแนะ Contribute ควํามรู้ให้กับเพื่อนๆ ในสังคมเครือข่ํายต่อไป
4. Sense of community กํารมีอํารมณ์ หรือควํามรู้สึกร่วมกัน เช่น กํารแสดงพลังทําง กํารเมืองกํารรวมตัวเพ่ือประโยชน์ในทํางสําธํารณะซ่ึงแรงจูงใจทํางด้ํานนี้ถือได้ว่ําเป็นแรงจูงใจท่ีมี อิทธิพลอย่ํางสูงเพรําะกํารใช้อํารมณ์ในกํารนําพําให้คนมํารวมกลุ่มกันก็จะมีแรงผลักดันจํากภํายใน ค่อนข้ํางสูง ตัวอย่ํางท่ีพบเห็นก็อย่ํางเช่น กํารเขียนกระทู้หรือบทควํามบํางอย่ํางแล้วไปมีผลกระทบต่อ ควํามคิดของคนบํางกลุ่มก็อําจจะทําให้เกิดกํารเข้ําต่อยอดควํามคิดเห็นต่ํางๆจํากหน่ึงคนเป็นสองคน เป็นสํามคนจนในที่สุดก็เป็นหลํายร้อยคน
  



























































































   32   33   34   35   36