Page 95 - นิตยสารดุลพาห เล่มที่ ๒-๒๕๖๑-กฎหมาย
P. 95
ดุลพาห
วิชาชีพทนายความเป็นวิชาชีพที่มีลักษณะผูกขาดที่ผู้ที่เป็นทนายความได้รับความ
คุ้มครองตามกฎหมายหลายประการ ผู้ที่ได้จดทะเบียนและได้รับใบอนุญาตให้เป็นทนายความ
จึงมีพันธกรณีต่อสังคมที่จะต้องปฏิบัติและดำารงตนให้ต้องด้วยหลักจริยธรรมทางวิชาชีพ
ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของทนายความในฐานะที่ทนายความมีส่วนสำาคัญในการ
จรรโลงความยุติธรรมในสังคม ทนายความจึงไม่พึงทำาสัญญากับลูกความของตนในลักษณะ
ที่ตนเองเข้าไปมีส่วนได้เสียโดยตรงในคดีจนกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
ข้อสัญญาที่ให้ทนายความเข้าไปมีส่วนได้เสียในผลคดีโดยตรงในทำานองซื้อขายความกัน
ย่อมไม่ต้องด้วยหลักจริยธรรมทางวิชาชีพทนายความถือว่าเป็นข้อสัญญาที่ขัดต่อความสงบ
เรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
แม้ข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความฯ ซึ่งออกตามความใน
พระราชบัญญัติทนายความฯ จะมิได้กำาหนดให้การเข้าเป็นทนายความโดยวิธีสัญญาเอาส่วน
จากทรัพย์สินที่เป็นมูลพิพาทอันจะพึงได้แก่ลูกความของทนายความเป็นการประพฤติผิด
มรรยาททนายความเช่นเดียวกับพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. ๒๔๗๗ และพระราชบัญญัติ
ทนายความ พ.ศ. ๒๕๐๘ ก็มีผลเพียงว่าการทำาสัญญาระหว่างทนายความกับลูกความ
ทำานองนี้ไม่เป็นการประพฤติผิดมรรยาททนายความอันเป็นมูลให้ลงโทษตามมาตรา ๕๒
เท่านั้น หามีผลทำาให้ข้อตกลงระหว่างโจทก์กับจำาเลยทั้งสี่ดังกล่าว ซึ่งขัดต่อความสงบ
เรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนกลับมีความสมบูรณ์แต่อย่างใดไม่ สัญญาจ้างว่าความ
ระหว่างโจทก์กับจำาเลยทั้งสี่จึงเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๐
(และมีคำาพิพากษาศาลฎีกาอื่นๆ ที่พิพากษาทำานองเดียวกัน เช่น คำาพิพากษาศาลฎีกาที่
๗๓๓๗/๒๕๔๘ และที่ ๘๔๓๙/๒๕๔๘)
ฝ่ายที่สอง เห็นว่า สัญญาจ้างว่าความที่มีข้อตกลงค่าตอบแทนโดยแบ่งเอาส่วน
จากทรัพย์สินที่ลูกความได้รับจากการชนะคดีสามารถบังคับกันได้ตามกฎหมาย เพราะ
ไม่เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งตามกฎหมาย การกำาหนดค่าทนายความดังกล่าวเป็นเพียงการ
กำาหนดหลักเกณฑ์ในการคิดคำานวณค่าทนายความระหว่างคู่สัญญาเท่านั้น หาเป็นการขัดต่อ
ความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่ โดยมีตัวอย่างคำาพิพากษาศาลฎีกาตาม
ความเห็นของฝ่ายที่สอง ดังนี้
84 เล่มที่ ๒ ปีที่ ๖๕