Page 41 - C:\Users\YUT_THAPAKORN\Desktop\รายงานประจำปี\

หน้ำ 38

นิเทศด่านฯ เยี่ยมงาน เยี่ยมใจ

สถานการณ์โรค/วิเคราะห์ข้อมูล

ด้วยกฎอนำมัยระหว่ำงประเทศฉบับใหม่ ปี ค.ศ. 2005 ( International Health Regulations (IHR 2005)) โดยองค์กำร

อนำมัยโลก มีผลบังคับใช้มำตั งแต่วันที่ 15 มิถุนำยน 2550 และประเทศสมำชิกจะต้องถือปฏิบัติตำม
กฎอนำมัยระหว่ำงประเทศ พ.ศ.2548 (กฎอนำมัยฯ) ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโรคติดต่อระหว่ำงประเทศ
ส ำนักโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข ในเรื่องระเบียบปฏิบัติของเจ้ำหน้ำที่ผู้มีอ ำนำจ
(เจ้ำหน้ำที่ด่ำนควบคุมโรคติดต่อระหว่ำงประเทศ) ที่ปฏิบัติงำน ณ ช่องทำงเข้ำออกประเทศ โดยกฎอนำมัยฯ

ได้ก ำหนดบทบำทของเจ้ำหน้ำที่ด่ำนควบคุมโรคฯ ไว้ดังนี
เจ้ำหน้ำที่ด่ำนควบคุมโรคฯ มีหน้ำที่ตรวจตรำ ด ำเนินงำนด้ำนสำธำรณสุขเพื่อสร้ำงควำมมั่นใจให้
ผู้เดินทำง ว่ำสิ่งที่ให้บริกำรหรือสิ่งอ ำนวยควำมสะดวกแก่ผู้เดินทำงระหว่ำงประเทศ ณ ช่องทำงเข้ำออก
ประเทศ ปลอดจำกแหล่งติดเชื อหรือสิ่งปนเปื้อน รวมทั งพำหะน ำโรคที่ส ำคัญต่ำงๆ และวิธีกำรด้ำนสุขำภิบำลอื่นๆ

โดยกำรด ำเนินกำรจะต้องหลีกเลี่ยงกำรท ำให้ผู้เดินทำงบำดเจ็บหรือเกิดควำมไม่สะดวก หรือเกิดควำมเสียหำย
ต่อสิ่งแวดล้อมที่มีผลกระทบด้ำนสำธำรณสุข นอกจำกนี ยังได้ก ำหนดสมรรถนะหลักของช่องทำงเข้ำออกประเทศ
ซึ่งมีหน่วยงำนอื่นๆ นอกจำกด่ำนควบคุมโรคติดต่อระหว่ำงประเทศ ในภำวะปกติและภำวะฉุกเฉิน (ภำวะฉุกเฉินด้ำน
สำธำรณสุขระหว่ำงประเทศ : Public Health Emergency of International Concern) ดังปรำกฏอยู่ในภำคผนวก 1 (ข)

ใน IHR 2005 ว่ำด้วยเรื่องสมรรถนะหลักส ำหรับท่ำอำกำศยำน ท่ำเรือ และพรมแดนทำงบก ซึ่งองค์กำรอนำมัยโลก

ติดตำมสมรรถนะของช่องทำงเข้ำออกประเทศ โดยใช้เครื่องมือ Joint External Evaluation Tool (JEE),2016 และ
คู่มือกำรประเมินตนเอง : กำรพัฒนำสมรรถนะหลักของช่องทำงเข้ำออกประเทศ ท่ำอำกำศยำน ท่ำเรือและ

พรมแดนทำงบก (Core capacities assessment tool for designated airports, ports and ground
crossings : CCAT)

เจ้ำพนักงำนควบคุมโรคติดต่อตำมพระรำชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีอ ำนำจหน้ำที่ในกำร
ด ำเนินกำรเฝ้ำระวัง ป้องกัน สอบสวน และควบคุมโรคตำมข้อก ำหนด และสอดคล้องตำมมำตรำ 34, 37, 38,

39, 40, 41, 42, 45, 46และมำตรำ 47 ตำมพระรำชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558
กำรปฏิบัติงำนจะมีคุณภำพมำกน้อยเพียงใด จ ำเป็นต้องมีกำรก ำหนดมำตรฐำนของงำนที่กระท ำ ซึ่งจะ
เป็นเครื่องมือบอกถึงคุณภำพในกำรด ำเนินกำร รวมทั งชนิดของงำนต่ำงๆ ที่เจ้ำหน้ำที่จะต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิด
ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภำพ และกำรที่จะทรำบว่ำกำรปฏิบัติงำนดังกล่ำวเป็นอย่ำงไร ผู้บังคับบัญชำต้องมีนิเทศ

งำนและกำรประเมินผล และเพื่อวำงแผนที่จะแก้ไขข้อบกพร่อง สร้ำงจุดแข็ง พัฒนำงำนและบุคลำกร และเพื่อ
ใช้เป็นข้อมูลย้อนกลับในกำรปฏิบัติงำน ใช้เป็นแนวทำงหรือทิศทำงในกำรปฏิบัติงำนในอนำคต และระบุควำม
ต้องกำรในกำรพัฒนำทักษะของเจ้ำหน้ำที่
กำรพัฒนำด่ำนควบคุมโรคฯ ให้ได้มำตรฐำน เป็นกำรด ำเนินกำรตำมหลักเกณฑ์ที่ถูกก ำหนด

โดยกฎอนำมัยระหว่ำงประเทศ พ.ศ.2548 (IHR 2005) และหลักเกณฑ์ตำมที่ก ำหนดในคู่มือกำรประเมินตนเอง
ฯเพื่อให้กำรเฝ้ำระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค และภัยสุขภำพทั ง 5 ด้ำน (โรคติดต่อ โรคสัตว์สู่คน อำหำรปลอดภัย

ภัยจำกสำรเคมี และภัยจำกนิวเคลียร์กัมมันตรังสี) ให้มีประสิทธิภำพสูงสุดและน ำมำซึ่งกำรด ำรงอยู่ของชีวิต
ประชำชนในประเทศให้ปรำศจำกโรคและภัยสุขภำพ ตลอดจนเจ้ำหน้ำที่ด่ำนควบคุมโรคฯมีควำมสุขภำคภูมิใจ