Page 102 - โครงการ_Neat
P. 102
- 98 -
ก่อนฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ยืม
ค ําพิพากษาฎีกาที่ 1286/2535 หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินเป็นหนังสืออาจมี
ขณะกู้หรือ มีภายหลังก็ได้
3. ในการใช้คืนเงินนั้นก็ต้องมีหลักฐานลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมเป็นสําคัญ หรือ
มีการแจ้งลงใน สัญญากู้ยืมเงินนั้นว่าได้ใช้คืนเงินแล้ว
4. เอกสารที่กฎหมายกําหนดก็เป็นเพียงหลักฐานการกู้ยืมไม่ใช่แบบของนิติ
กรรม
ดอกเบี้ยในกำรกู้ยืมเงิน
ในประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 654 กําหนดว่า ให้คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกิน
ร้อยละ 15 บาทต่อปี ถ้าเกินกว่านั้นให้ลดเหลือร้อยละ 15 บาทต่อปีแต่ตาม
พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 กําหนดว่า การเรียก
ดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 บาทต่อปี มีโทษจําคุก นั่นก็แปลว่า ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกิน
ร้อยละ 15 บาทต่อปี และจากหลักเบื้องต้นในเรื่องนิติกรรมมาตรา 150 ที่กําหนด
ว่าการใดที่ขัดต่อกฎหมาย การนั้นเป็นโมฆะ ทําให้การเรียกดอกเบี้ยเกินร้อยละ
15 บาทต่อปี ดอกเบี้ยนั้นจะเป็นโมฆะ แต่ก็จะเป็น โมฆะเฉพาะเรื่องดอกเบี้ย
ส่วนสัญญากู้ยืมเงินยังคงสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ การห้ามมิให้เรียกดอกเบี้ยเกินร้อยละ
15 บาทต่อปี จะไม่นํามาใช้กับกิจการสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ ซึ่ง
สามารถเรียกดอกเบี้ยได้ เกินร้อยละ 15 บาทต่อปี แต่ทั้งนี้ผู้กู้ที่จ่ายดอกเบี้ยเกิน
อัตราที่กฎหมายกําหนด จัดเป็นการชําระหนี้ตามอําเภอใจโดยที่ตนรู้อยู่แล้วว่าตน
ไม่มีความผูกพันต้องชําระผู้กู้จึงไม่มีสิทธิเรียกคืนและไม่มีสิทธิที่จะนํา