Page 31 - สังคมสูงวัยกับความท้าทายของตลาดแรงงานไทย - ธนาคารแห่งประเทศไทย
P. 31

จนกระทั่งวัยหลังเกษียณ เช่น กองทุนส ารองเลี้ยงชีพ เบี้ยยังชีพส าหรับผู้สูงอายุ กองทุนการออมแห่งชาติและ
                                            29
               บ าเหน็จบ านาญข้าราชการ เป็นต้น
                      อย่างไรก็ดี ระบบน านาญของประเทศไทย พบว่ายังมีความท้าทายอยู่หลายรูปแบบ ทั้งความท้าทาย
               ด้านระบบและโครงสร้างระบบบ าเหน็จบ านาญไทย (Pension system) เนื่องจากแต่ละระบบมีผู้รับผิดชอบ
               ที่แตกต่างกัน การบริหารจึงค่อนข้างกระจัดกระจายและแยกกันท า ส่งผลให้เกิดการขาดการประสานงานและ
               ผลักดันเชิงนโยบายได้ นอกจากนี้ยังพบความท้าทายด้านประสิทธิภาพจากอัตราการสมทบที่ค่อนข้างต่ า

               ท าให้ระบบบ าเหน็จบ านาญยังไม่สามารถท าหน้าที่เสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินได้อย่างเต็มที่ ส าหรับ
               การออมแบบบังคับครอบคลุมเพียงผู้ที่ท างานในระบบเท่านั้น อาทิ ข้าราชการและลูกจ้างเอกชน แต่ไม่สามารถ
               บังคับใช้ได้กับผู้ท างานนอกระบบ เช่น ผู้จ้างงานตนเองและเกษตรกร ขณะที่กองทุนบ านาญมีจ านวนมากแต่
               บังคับแยกการออมตามสาขาอาชีพ เช่น ข้าราชการ ครู และลูกจ้างเอกชน สมาชิกจึงจ าเป็นต้องเปลี่ยนกองทุน

               ทุกครั้งหากมีการเปลี่ยนงานข้ามอาชีพ ท าให้ขาดความต่อเนื่องในการออมเงินเพื่อการเกษียณ
                      นโยบายด้านระบบบ าเหน็จบ านาญควรเน้นให้การเป็นสมาชิกกองทุนต่าง ๆ อยู่บนพื้นฐานของ
               การออมแบบบังคับหรือแบบสมัครใจ แทนการเข้าเป็นสมาชิกโดยเกณฑ์อาชีพ เช่น การขยายสมาชิกของ
               กองทุนการออมแห่งชาติให้กับลูกจ้างในระบบด้วย เป็นการออมแบบสมัครใจที่เพิ่มเติมจากการออมในกองทุน

               แบบบังคับที่ลูกจ้างในระบบเป็นสมาชิกอยู่แล้ว นอกจากนี้ การขยายขอบเขตของสมาชิกท าให้กองทุนมีขนาด
               ใหญ่ขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารสินทรัพย์ขึ้นด้วย รัฐบาลควรพิจารณาบูรณาการระบบบ าเหน็จ
               บ านาญของประเทศ โดยอาจใช้คณะกรรมการบ าเหน็จบ านาญแห่งชาติเป็นผู้ออกแบบและด าเนินนโยบายอย่าง

               เป็นระบบ ทั้งนี้ รัฐบาลสามารถเพิ่มเงินสนับสนุนในกองทุนการออมแห่งชาติส าหรับผู้ลงทะเบียนคนจนได้ด้วย
               ซึ่งจะช่วยรวมศูนย์การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและการออมเพื่อการเกษียณด้วย
                      นอกจากการออมในรูปแบบตัวเงินแล้ว ภาครัฐจ าเป็นต้องสนับสนุนให้มีการออมในรูปสินทรัพย์อื่น
               เช่น ที่อยู่อาศัย ต้นไม้มีค่า และการเลี้ยงปศุสัตว์ ซึ่งเป็นเรื่องส าคัญและมีความเหมาะสมกับสภาพความเป็นอยู่
               ของคนไทยมากกว่าการออมในรูปแบบตัวเงินอย่างเดียว เนื่องจากคนไทยกว่า 10 ล้านคนอยู่ในภาคเกษตรกรรม

               หรือในชนบท ซึ่งสามารถปลูกต้นไม้มีค่าหรือเลี้ยงปศุสัตว์ในพื้นที่เกษตรที่มีอยู่แล้วได้































               29  วรเวศม์ สุวรรณระดา, การปฏิรูประบบบ านาญกับความยั่งยืนทางการคลัง
               https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/ArticleAndResearch/SymposiumDocument/symposium2015_paper5.pdf
                                                                                                         31
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36