Page 7 - ต้นหอม บาส
P. 7

ยุคคลาสสิก







         ■ นักดนตรีและคีตกวีที่ยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงหลายท่านได้หลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐานในกรุงเวียนนา อาทิ
              เช่น กลุ๊ค (Gluck) ไฮเดิ้น (Haydn) โมสาร์ท (Mozart) บีโธเฟ่น (Beethoven) ชูเบิร์ท (Schubert) บรา

              หมส์ (Brahms) สเตราส์ (Struass) บรู๊คเนอร์ ( Bruckner) วูล์ฟ (Wolf ) มาห์เลอร์ (Mahler) เชินเบอร์ก
              (Shoenberg) เวเบิร์น (Webern) เป็นต้น ศิลปินเหล่านี้เป็นผู้มีความส าคัญต่อประวัติศาสตร์การดนตรี
              ในยุคคลาสสิกเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้แล้วกรุงเวียนนายังเป็นศูนย์รวมของศิลปินท่านอื่นๆ อีก

              มากมายจนแทบไม่น่าเชื่อว่าจะมีนครใดในโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอัจฉริยะทางดนตรีเช่นนครแห่งนี้อีก
              แล้ว ในยุคนี้การดนตรีได้กลายเป็นชีวิตจิตใจของชาวยุโรป นักดนตรีและคีตกวีได้รับการสนับสนุน

              และชุบเลี้ยงจากราชส านัก ศิลปะการดนตรีมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างสูงส่ง และมรดกที่ที่ได้รับสืบ
              ทอดมาจากยุคนี้คือ ซิมโฟนี (Symphony) ซึ่งเป็นดนตรีที่คีตกวีประพันธ์ขึ้นมาอย่างมีกฎเกณฑ์และ
              แบบแผนเช่นเดียวกับดนตรีอุปรากร (Opera)และโซนาต้า (Sonata) โซนาต้าและซิมโฟนี่แห่งยุค

              คลาสสิก

         ■ โซนาต้าในยุคนี้ได้ถูกน ามาดัดแปลงให้มีความหมายแตกต่างออกไปจากศตวรรษที่แล้ว โดยหมายถึง

              การบรรเลงเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีเพียงชิ้นเดียวหรือสองชิ้น เช่น Sonata for Violin หมายถึงการ
              บรรเลงเดี่ยวไวโอลิน Piano Sonata หมายถึงการบรรเลงเดี่ยวเปียโน หรือ Sonata for String Quartet

              หมายถึง การบรรเลงด้วยเครื่องสาย 4 ชิ้น เป็นต้น แต่โครงสร้างของบทเพลงโซนาต้าหรือ นั้นเป็น
              แบบอย่างเดียวกับบทเพลงซิมโฟนี่ดังนี้คือ บทเพลงซิมโฟนี่ประกอบด้วย 4 ท่อนหรือ Movement แต่
              บางครั้งอาจมีความยาวกว่า 4 ท่อนก็ได้


         ■ โดยทั่วไปนั้น ท่อนที่ 1(First Movement) เป็นบทน าของเพลงมักมีความยาวมากที่สุด อาจมีลีลาที่ช้า

              หรือเร็วขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์ ท่อนที่ 2 (Second Movement) โดยทั่วไปจะเป็นท่วงท านองที่ช้าเป็นการ
              พัฒนา ธีม (Theme) หรือเนื้อหาหลักของเพลงจากท่อนแรก ท่อนที่ 3 (Third Movement) เป็นลีลาที่
              ไพเราะผ่อนคลายหรรษาไปตามบทเพลงที่เรียกว่า มินูเอ็ท (Minuet) ท่อนที่ 4 (Fourth Movement)

              มักจะมีท่วงท านองที่เร็วและมีสาระของเพลงน้อยกว่าท่อนอื่น บางครั้งก็จะเป็นลีลาที่ผันแปรมาจาก
              ท่วงท านองหลักหรือ ธีม ของเพลงเป็นต้น ซิมโฟนีเป็นบทประพันธ์ดนตรีที่มีความไพเราะและยิ่งใหญ่

              สามารถใช้ทดสอบความสามารถและความคิดริเริ่มของคีตกวีแต่ละท่านได้เป็นอย่างดี ดนตรีแห่งยุค
              คลาสสิกมีความรุ่งเรืองสูงส่ง ซึ่งเราจะสังเกตได้จากวงดนตรีออร์เคสตร้าที่มีขนาดใหญ่มาก
              ประกอบด้วยเครื่องดนตรีกว่า 100 ชิ้นและวาทยกร (Conductor) 1 คน การจัดจ าแหน่งของเครื่อง

              ดนตรีต่าง ๆ และนักดนตรีขึ้นอยู่กับวิทยากรแต่ละท่าน วงซิมโฟนีได้ถือก าเนิดครั้งแรกในยุคคลาสสิก
              นี้เอง และได้รับการพัฒนาต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้


         ■ ด้วยความรุ่งเรืองทางดนตรีแห่งยุคนี้ จึงไม่เป็นที่น่าสงสัยเลยว่า เหตุใดดนตรีคลาสสิกจึงยังคงเป็นที่
              นิยมอยู่จนทุกวันนี้ จนเรียกได้ว่าเป็นดนตรีอมตะ หาดแต่วิวัฒนาการศิลปะการดนตรีมิได้หยุดอยู่

              เพียงนี้ ศิลปินได้พยายามแสวงหาแนวทางของศิลปะใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ดนตรีก็เช่นกัน จากยุค
              คลาสสิก ต่อมาจนถึง โรแมนติก (Romantic) ซึ่งการดนตรียังไม่มีแนวทางต่างกันมากนัก นักดนตรีใน

              ยุคโรแมนติกที่มีชื่อเสียง 4 ท่านได้แก่ เมนเดลโซน (Felix Mendelsohn) โชแปง (Federic Chopin)
              ชูมานน์ (Robert Schumann) ลิซท์ ( Franz Liszt)
   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12