Page 250 - เอกสารฝนหลวง
P. 250

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ                                                                            เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง


                                     13.1.1   ก้อนนํ้าแข็งแห้งขนาดประมาณไม่เกิน 1 ลูกบาศก์นิ้ว   มีนํ้าหนักและขนาด

                       ที่ใหญ่พอที่จะร่วงหล่นสวนกําลังแรงของกระแสอากาศลอยขึ้น (Updraft) ภายในเมฆขณะนั้น

                       ของแต่ละเที่ยวบิน  อัตราความเร็วร่วงหล่นของก้อนนํ้าแข็งแห้งจะค่อยลดความเร็วร่วงหล่นช้าลง
                       ตามระยะทางที่ร่วงหล่นลงมา  ขนาดของก้อนนํ้าแข็งแห้งจะค่อยๆ เล็กลง  เนื่องจากการระเหิด

                       ตามลําดับ   ระหว่างที่ร่วงหล่นผ่านอุณหภูมิอากาศในเมฆที่สูงกว่าก้อนนํ้าแข็งแห้งซึ่งมีอุณหภูมิ
                       เย็นยิ่งยวด (Super cooled Temperature)   ถึง -78  องศาเซลเซียส   จึงดูดกลืนความร้อนจาก

                       อากาศระเหิดเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอุณหภูมิตํ่ากว่าอุณหภูมิอากาศในเมฆ   และคาย

                       ความร้อนแฝงจํานวนมากออกมา  เนื่องจากการเปลี่ยนสภาวะจากของแข็งเป็นก๊าซทําให้การลอยตัวขึ้น
                       ของมวลอากาศ (Updraft) ในเมฆทวีความรุนแรงขึ้น และไหลพาหยดนํ้าเล็กๆ ขึ้นไปเจริญเติบโตเป็น

                       หยดนํ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นด้วยกระบวนการกลั่นตัวและปล่อยความร้อนแฝงออกมาเสริมความร้อนแฝง
                       อันเนื่องมาจากการระเหิดของก้อนนํ้าแข็งแห้งดังกล่าวให้มีกําลังแรงเพิ่มขึ้น  รวมทั้งเกิดการชนและ

                       รวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง

                                     13.1.2  การเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์  ขณะที่ก้อนนํ้าแข็งแห้งที่ร่วงหล่นลงมาดังกล่าว

                       ในข้อ 13.1.1  แหวกอากาศลงมาทําให้เกิดร่องสูญญากาศ (Vacuum Trajectory)  ที่มีอุณหภูมิเย็นจัด
                       กว่าอุณหภูมิอากาศปกติในเมฆ ขณะที่ก้อนนํ้าแข็งแห้งนั้นร่วงหล่นผ่านไป   ไอนํ้าและอณูนํ้าและ

                       หยดนํ้าเล็กๆ ในเมฆโดยรอบร่องสูญญากาศจะเคลื่อนตัวเข้าแทนที่อย่างฉับพลัน  ทําให้เกิดกิจกรรม

                       การกลั่นตัว (Condensation) การชน และรวมตัวกัน (Collision and Coalescence) เจริญเป็นหยดเมฆ
                       (Cloud Droplet) หรือหยดฝนเริ่มเกิดใหม่  พร้อมทั้งปล่อยความร้อนแฝงออกมาสมทบกับความร้อนแฝง

                       ที่ถูกปล่อยออกมาจากการระเหิด (Sublimation) ของก้อนนํ้าแข็งแห้งเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

                       (CO  gas) ที่อุณหภูมิที่เย็นกว่าแผ่ขยายตัวออกไปจากร่องสูญญากาศเข้าไปผสมกับอากาศโดยรอบที่มี
                           2
                       อุณหภูมิสูงกว่า   ทําให้เกิดการกลั่นตัวและปล่อยความร้อนแฝงออกมาอีกทางหนึ่งทําให้ยอดเมฆ

                       เจริญสูงขึ้นและเกิดการกลั่นตัวอย่างต่อเนื่องตามลําดับความสูงที่อากาศยกตัวขึ้น (Updraft) และ

                       ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

                                     13.1.3  ก้อนนํ้าแข็งแห้งที่ขนาดเล็กลงตามระยะทางที่ร่วงหล่นผ่านความหนาระหว่าง
                       ยอดเมฆกับฐานเมฆ   ความหนาแน่นของก้อนเมฆและความรุนแรงของกิจกรรมหรือกลไกในเมฆ

                       เช่น Updraft  ก้อนนํ้าแข็งแห้งที่บางส่วนอาจร่วงหล่นลงมาจนทะลุฐานเมฆ  ระหว่างนั้นขนาดก้อนนํ้าแข็ง

                       ที่มีขนาดเล็กลงตามลําดับของแต่ละเที่ยวบินทดลองที่ 1 – 3  แต่ยังมีขนาดคงเหลือพอที่จะร่วงหล่น
                       ผ่านฐานเมฆลงมาได้  ทําให้อุณหภูมิที่ใต้ฐานเมฆลดตํ่าลง และอุณหภูมิที่เย็นยิ่งยวดของก้อนนํ้าแข็งแห้ง

                       ช่วยให้อัตราการกลั่นตัวที่ใต้ฐานเมฆสูงขึ้นและปล่อยความร้อนแฝงออกมาจํานวนมากยิ่งขึ้น   อากาศ
                       ที่อุ่นกว่าโดยรอบก้อนเมฆทดลองที่เย็นกว่าจะไหลพาความชื้น และอณูนํ้าเข้ามาหล่อเลี้ยง และกลั่นตัว

                       ที่ฐานเมฆมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับก้อนนํ้าแข็งแห้งที่มีอุณหภูมิเย็นยิ่งยวดที่ทะลุฐานเมฆลงมา

                                                              205
   245   246   247   248   249   250   251   252   253   254   255