Page 108 - 10_พระราชบญญตตำรวจแหงชาต2547_Neat
P. 108

๑๐๑




                             (๑)  ผูนั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวน หรือตองหาวากระทําความผิดอาญาหรือถูกฟอง
                 คดีอาญาในเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตตอหนาที่ราชการ หรือเกี่ยวกับความประพฤติหรือพฤติการณ

                 อันไมนาไววางใจและผูที่ถูกฟองนั้นพนักงานอัยการมิไดรับเปนทนายแกตางให และผูมีอํานาจดังกลาว
                 พิจารณาเห็นวาถาใหผูนั้นคงอยูในหนาที่ราชการอาจเกิดการเสียหายแกราชการ

                             (๒)  ผูนั้นมีพฤติการณที่แสดงวาถาคงอยูในหนาที่ราชการจะเปนอุปสรรคตอการสอบสวน
                 พิจารณา หรือจะกอใหเกิดความไมสงบเรียบรอยขึ้น

                             (๓)  ผูนั้นอยูในระหวางถูกควบคุมหรือขังโดยเปนผูถูกจับในคดีอาญาหรือตองจําคุกโดย
                 คําพิพากษาและไดถูกควบคุม ขัง หรือตองจําคุก เปนเวลาติดตอกันเกินกวาสิบหาวันแลว

                             (๔)  ผูนั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวนและตอมามีคําพิพากษาถึงที่สุดวาเปนผูกระทํา
                 ความผิดอาญาในเรื่องที่สอบสวนนั้น หรือผูนั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวนภายหลังที่มีคําพิพากษา

                 ถึงที่สุดวาเปนผูกระทําความผิดอาญาในเรื่องที่สอบสวนนั้น และผูมีอํานาจดังกลาวพิจารณาเห็นวา
                 ขอเท็จจริงที่ปรากฏตามคําพิพากษาถึงที่สุดนั้นไดความประจักษชัดอยูแลววาการกระทําความผิดอาญา
                 ของผูนั้นเปนความผิดวินัยอยางรายแรง

                             การสั่งพักราชการใหสั่งพักตลอดเวลาที่สอบสวนพิจารณา  เวนแตกรณีผูถูกสั่งพัก
                 ไดรองทุกขและผูมีอํานาจพิจารณาเห็นวาคํารองทุกขฟงขึ้นและไมสมควรที่จะสั่งพักราชการ ก็ใหสั่ง

                 ใหผูนั้นกลับเขาปฏิบัติหนาที่ราชการกอนการสอบสวนพิจารณาเสร็จสิ้นได
                             ในกรณีที่ขาราชการตํารวจผูใดมีกรณีถูกกลาวหาวากระทําผิดวินัยอยางรายแรงจนถูกตั้ง

                 กรรมการสอบสวนหลายสํานวน หรือตองหาวากระทําความผิดอาญาหรือถูกฟองคดีอาญาหลายคดี
                 เวนแตเปนความผิดที่ไดกระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือผูที่ถูกฟองนั้น พนักงานอัยการ

                 รับเปนทนายแกตางให ถาจะสั่งพักราชการใหสั่งพักทุกสํานวนและทุกคดี
                             ในกรณีที่ไดสั่งพักราชการในสํานวนใดหรือคดีใดไวแลว ภายหลังปรากฏวาผูถูกสั่งพัก

                 ราชการนั้นมีกรณีถูกกลาวหาวากระทําผิดวินัยอยางรายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวนในสํานวนอื่น
                 หรือตองหาวากระทําความผิดอาญาหรือถูกฟองคดีอาญาในคดีอื่นเพิ่มขึ้นอีก เวนแตเปนความผิดที่

                 ไดกระทําโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ หรือผูที่ถูกฟองนั้น พนักงานอัยการรับเปนทนายแกตางให
                 ก็ใหสั่งพักราชการในสํานวนหรือคดีอื่นที่เพิ่มขึ้นนั้นดวย

                             การสั่งพักราชการ หามมิใหสั่งพักยอนหลังไปกอนวันออกคําสั่ง เวนแต
                             (๑)  ผูซึ่งจะถูกสั่งพักราชการอยูในระหวางถูกควบคุมหรือขัง โดยเปนผูถูกจับในคดีอาญา

                 หรือตองจําคุกโดยคําพิพากษา การสั่งพักราชการในเรื่องนั้น ใหสั่งพักยอนหลังไปถึงวันที่ถูกควบคุม ขัง
                 หรือตองจําคุก
                             (๒)  ในกรณีที่ไดมีการสั่งพักราชการไวแลว ถาจะตองสั่งใหมเพราะคําสั่งเดิมไมชอบหรือ

                 ไมถูกตอง ใหสั่งพักตั้งแตวันใหพักราชการตามคําสั่งเดิม หรือตามวันที่ควรตองพักราชการในขณะที่ออก

                 คําสั่งเดิม
   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112   113