Page 104 - 10_พระราชบญญตตำรวจแหงชาต2547_Neat
P. 104

๙๗




                             การลงโทษกักขัง ใหนําตัวผูถูกลงโทษไปรับโทษที่สถานีหรือหนวยงานอื่นที่ผูถูกลงโทษมิได
                 ประจําอยู การลงโทษกักขังขาราชการตํารวจหญิง หามมิใหกักขังรวมกับขาราชการตํารวจชาย หากไมมี

                 สถานที่พอจะแยกกักขัง หัวหนาหนวยงานที่รับตัวผูถูกลงโทษไวเพื่อลงโทษจะกําหนดสถานที่ใด
                 สถานที่หนึ่งที่เห็นเหมาะสมเปนสถานที่กักขังก็ได สวนการลงโทษกักขัง ใหลงโทษกักขังไวในสถานที่

                 จัดไวโดยเฉพาะ หามมิใหกักขังรวมกับผูตองหา เวนแตมีเหตุจําเปนเพราะไมมีที่กักขัง และหามนํา
                 สิ่งของไมจําเปนหรืออาวุธเขาไปในสถานที่กักขัง

                             ÁÒμÃÒ ùð  ขาราชการตํารวจผูใดกระทําผิดวินัยอยางรายแรง ใหผูมีอํานาจตาม
                 มาตรา ๗๒ สั่งลงโทษปลดออก หรือไลออก ตามความรายแรงแหงกรณี ถามีเหตุอันควรลดหยอนจะนํามา

                 ประกอบการพิจารณาลงโทษก็ได แตหามมิใหลดโทษตํ่ากวาปลดออก
                             การพิจารณาสั่งลงโทษของผูมีอํานาจตามมาตรา ๗๒(๒) (๓) และ (๔) ใหผูมีอํานาจ

                 ดังกลาวตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณากลั่นกรองเสนอ โดยคณะกรรมการดังกลาวอยางนอยตอง
                 ประกอบดวย รองหัวหนาหนวยงานนั้นทุกคน ตามหลักเกณฑที่กําหนดในกฎ ก.ตร.
                             *กฎ ก.ตร.ตามมาตรานี้ ไดแก กฎ ก.ตร.วาดวยคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง

                 การพิจารณาสั่งลงโทษ พ.ศ.๒๕๔๗ และที่แกไขเพิ่มเติม
                             ผูถูกลงโทษปลดออกตามมาตรานี้ ใหมีสิทธิไดรับบําเหน็จบํานาญเสมือนวาผูนั้นลาออก

                 จากราชการ
                             ÁÒμÃÒ ùñ  เมื่อผูบังคับบัญชาไดดําเนินการทางวินัยแกขาราชการตํารวจผูใดแลว

                 ใหรายงานการดําเนินการทางวินัยตอผูบังคับบัญชาที่มีตําแหนงเหนือผูดําเนินการทางวินัยและ
                 ผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ

                             ในกรณีที่ผูบังคับบัญชาที่ไดรับรายงานตามวรรคหนึ่งเห็นวาการยุติเรื่อง การงดโทษหรือ
                 การลงโทษเปนการไมถูกตองหรือไมเหมาะสม ก็ใหมีอํานาจสั่งลงโทษ เพิ่มโทษเปนสถานโทษหรืออัตราโทษ

                 ที่หนักขึ้น ลดโทษลงเปนสถานโทษหรืออัตราโทษที่เบาลง งดโทษโดยใหทําทัณฑบนเปนหนังสือ
                 หรือวากลาวตักเตือนหรือยกโทษใหถูกตองหรือเหมาะสมตามควรแกกรณี ตลอดจนแกไขเปลี่ยนแปลง

                 ขอความในคําสั่งเดิมใหถูกตองเหมาะสมไดดวย และในกรณีที่เห็นวาควรดําเนินการอยางใดเพิ่มเติม
                 เพื่อประกอบการพิจารณาใหไดความจริงและยุติธรรมก็ใหมีอํานาจดําเนินการหรือสั่งดําเนินการได

                 ตามควรแกกรณี โดยการสั่งลงโทษหรือเพิ่มโทษเปนสถานโทษที่หนักขึ้น ตองไมเกินอํานาจของตนตาม
                 มาตรา ๘๙ และการเพิ่มอัตราโทษเมื่อรวมกับอัตราโทษเดิมตองไมเกินอํานาจนั้นดวย ถาเกินอํานาจ

                 ของตนก็ใหรายงานตอผูบังคับบัญชาของผูนั้นตามลําดับเพื่อใหพิจารณาดําเนินการตามควรแกกรณี
                 ทั้งนี้ถาเห็นวาการจะสั่งลงโทษหรือเพิ่มโทษนั้นกรณีเปนการกระทําผิดวินัยอยางรายแรง ก็ใหรายงาน
                 ตอผูบัญชาการตํารวจแหงชาติเพื่อใหพิจารณาดําเนินการ

                             ในกรณีที่ผูบังคับบัญชาสั่งลงโทษตามมาตรา ๘๙ สั่งยุติเรื่องหรือสั่งงดโทษขาราชการ

                 ตํารวจผูใดไปแลว แตผูบัญชาการตํารวจแหงชาติเห็นวากรณีเปนการกระทําผิดวินัยอยางรายแรง
   99   100   101   102   103   104   105   106   107   108   109