Page 330 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 330

๓๑๗




                                 หากภริยาซึ่งอายุยังไมเกิน ๑๕ ป ÂÔ¹ÂÍÁใหสามีกระทําชําเรา การกระทําของสามี
                 ก็ไมผิดมาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง หรือหากภริยาäÁ‹ÂÔ¹ÂÍÁ แมการกระทําของสามีไมผิดมาตรา ๒๗๗

                 วรรคหนึ่ง แตสามีจะมีความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนึ่ง
                             ๒.  การนับอายุของเด็กใหเริ่มนับแตวันเกิด (คําพิพากษาศาลฎีกาที่ ๗๘๔๑/๒๕๕๒ และ

                 ๑๐๘๔/๒๕๕๔)
                             ๓.  ในสวนของการกระทํา คือ การกระทําชําเราเด็ก â´ÂäÁ‹μŒÍ§คํา¹Ö§Ç‹Òà´ç¡¹Ñ鹨ÐÂÔ¹ÂÍÁ

                 ËÃ×ÍäÁ‹ แมเด็กจะยินยอมการกระทําก็เปนความผิด
                             ๔.  ความหมายของการกระทําชําเรา มีบทนิยามอยูใน ป.อ.มาตรา ๑ (๑๘) ขอใหนักเรียน

                 ดูคําอธิบายในมาตรา ๒๗๖
                             ๕.  ปญหาเกี่ยวกับการรวมประเวณีกับเด็กหญิงอายุไมเกิน ๑๕ ป โดยเขาใจวาอายุเกิน

                 ๑๕ ป ผูกระทําจะมีความผิดตามมาตรานี้หรือไม มีคําพิพากษาศาลฎีกาตัดสินไว ๒ แนว ซึ่งใหเหตุผล
                 ตางกัน ดังนี้
                              á¹Çáá เห็นวา เปนเรื่องผูกระทําสําคัญผิดในขอเท็จจริงตามมาตรา ๖๒ วรรคแรก

                 ที่วา ขอเท็จจริงใด ถามีอยูจริงจะทําใหการกระทําไมเปนความผิด แมขอเท็จจริงนั้นจะไมมีอยูจริง
                 แตผูกระทําสําคัญผิดวามีอยูจริง ผูกระทํายอมไมมีความผิดตามมาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง เชน

                                 คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè õñ÷ö/òõóø  จําเลยรวมประเวณีกับเด็กหญิงมะปราง
                 ผูเสียหายซึ่งมีอายุ ๑๔ ป ๕ เดือน โดยสําคัญผิดคิดวาผูเสียหายมีอายุ ๑๘ ป มีปญหาวาจําเลยจะ

                 อางความสําคัญผิดในเรื่องอายุของผูเสียหายไดหรือศาลฎีกาวินิจฉัยวา ตามประมวลกฎหมายอาญา
                 มาตรา ๒๗๗ และมาตรา ๒๗๙ ผูกระทําผิดจะตองกระทําแกเด็กอายุไมเกิน ๑๕ ป เรื่องอายุของผูเสียหาย

                 เปนองคประกอบของความผิดดวย จึงเปนขอเท็จจริงที่วาผูกระทําผิดไดรูหรือไม การรูหรือไมรูขอเท็จจริง
                 จะผิดหรือไม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๒ วรรคหนึ่ง บัญญัติวา ขอเท็จจริงใดถามีอยูจริงจะ

                 ทําใหการกระทําไมเปนความผิด ฯลฯ แมขอเท็จจริงนั้นจะไมมีอยูจริง แตผูกระทําสําคัญผิดวามีอยูจริง
                 ผูกระทํายอมไมมีความผิด ฯลฯ จึงเห็นไดวา เมื่อจําเลยสําคัญผิดในเรื่องอายุของผูเสียหาย แมความจริง

                 ไมใชอยางที่จําเลยสําคัญผิด จําเลยยอมไมมีความผิด
                                 á¹Ç·ÕèÊͧ เห็นวา อายุของหญิงเปนขอเท็จจริงซึ่งเปนองคประกอบของความผิด

                 ถาผูกระทําไมรู ถือวาผูกระทําไมมีเจตนากระทําความผิดฐานนี้ ตามมาตรา ๕๙ วรรคสาม เชน
                                 คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè öôðõ/òõóù จําเลยกระทําชําเราผูเสียหายÍÒÂØ ñô »‚

                 ô à´×͹ โดยผูเสียหายยินยอม แตจําเลยࢌÒ㨼ԴNjÒผูเสียหายÍÒÂØ ñ÷ »‚ เพราะผูเสียหายมีรูปรางใหญ
                 ตัวสูงเทาจําเลย พูดจาฉะฉานเหมือนผูใหญ อีกทั้งยังทํางานที่โรงงานผลไมกระปองซึ่งจะรับเฉพาะ
                 คนที่มีอายุ ๑๗ ปขึ้นไปทํางาน ศาลฎีกาวินิจฉัยวา เชื่อไดวา จากรูปราง การพูดจา และงานที่ผูเสียหายทํา

                 มีเหตุผลทําใหผูพบเห็นเขาใจวาผูเสียหายมีอายุเกินกวา ๑๕ ปได ฟงไดวาจําเลยสําคัญผิดโดยเขาใจวา

                 ผูเสียหายอายุ ๑๗ ป ยอมมีผลใหจําเลยไมรูขอเท็จจริงวาผูเสียหายอายุไมเกิน ๑๕ ป ซึ่งเปนขอเท็จจริง
   325   326   327   328   329   330   331   332   333   334   335