Page 327 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 327

๓๑๔




                               μÑÇÍ‹ҧ
                               คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè ñòðò/òõòù การรวมกระทําความผิดดวยกันอันมีลักษณะ

              เปนการโทรมหญิงนั้น μŒÍ§ÁÕ¡ÒÃËÇÁ¡Ñ¹¼ÅÑ´à»ÅÕ蹡ѹ¢‹Á¢×¹¡ÃÐทําชําàÃÒμÑé§áμ‹Êͧ¤¹¢Öé¹ä» จําเลย
              ที่ ๑ ขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายà¾Õ§¤¹à´ÕÂÇ จําเลยที่ ๒ ÂѧäÁ‹ä´Œ¢‹Á¢×¹¡ÃÐทําชําàÃÒ´ŒÇ เพียงแต
              กอดจูบและกดผูเสียหายใหจําเลยที่ ๑ ขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายเทานั้น ดังนี้ลักษณะการกระทํา

              ดังกลาวของจําเลยที่ ๒ เปนเพียงตัวการรวมกระทําผิดขมขืนกระทําชําเราดวยกันกรณี¨Ö§äÁ‹à¢ŒÒÅѡɳÐ
              ໚¹¡ÒÃâ·ÃÁËÞÔ§ ÁÒμÃÒ ».Í.ÁÒμÃÒ ò÷ö ÇÃäÊͧ (»˜¨¨ØºÑ¹¤×ÍÇÃäÊÒÁ) จําเลยทั้งสองมี

              ความผิดตามมาตรา ๒๗๖ วรรคหนึ่งประกอบมาตรา ๘๓ เทานั้น
                               ๕.  เมื่อไดขมขืนกระทําชําเราอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิงโดยกระทําตัั้งแตสองคน

              ขึ้นไปแลว หากยังมีพวกที่รวมกระทําดวยกัน แตยังไมทันไดลงมือกระทําชําเราก็ตองรับผิดฐานเปน
              μÑÇ¡ÒÃรวมกันขมขืนกระทําชําเราอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิงดวย

                               μÑÇÍ‹ҧ
                               คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè òòðð/òõò÷  ระหวางที่ผูเสียหายไปเที่ยวงานมหกรรมชาง
              จําเลยที่ ๒ ซึ่งผูเสียหายไมเคยรูจักมากอน ไดเขามาทักทายและไปเที่ยวงานดวยกัน จนกระทั่งตกดึก

              ผูเสียหายจะกลับบานก็ขอใหจําเลยที่ ๒ กับพวกไปสง จําเลยที่ ๒ ทํารีรอวาจะรอเพื่อนกอน แตเมื่อ
              ผูเสียหายเดินออกจากบริเวณงาน ก็เห็นจําเลยที่ ๒ กับพวกเดินนําหนาไปกอน ครั้นถึงที่เกิดเหตุผูเสียหาย

              ก็ถูกชายวัยรุนซึ่งมีจําเลยที่ ๑ รวมอยูดวยฉุดไปขมขืนกระทําชําเราที่ขางทาง สวนจําเลยที่ ๒
              ถอดกางเกงรออยู ผูเสียหายขอรองวาอยาทําหนูเลย จําเลยที่ ๒ ตอบวาอีกคนหนึ่ง แตมีคนเดินมา

              คนรายจึงอุมผูเสียหายไปที่อื่นแลวขมขืนกระทําชําเราจนผูเสียหายสลบไป ตามพฤติการณสอวาจําเลย
              ที่ ๒ ไดรวมกับพวกเพื่อกระทําความผิดมาแตตน

                               การรวมกันขมขืนกระทําชําเราอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิงนั้นจะตองกอนหลัง
              กันอยู พวกของจําเลยบางคนไดขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายแลว บางคนกําลังขมขืนกระทําชําเราอยู
              จําเลยที่ ๒ ซึ่งไดถอดกางเกงรออยูพรอมที่จะขมขืนกระทําชําเราเปนคนตอไป แมจะยังไมทันไดขมขืน

              กระทําชําเราผูเสียหาย เพราะมีผูอื่นมายังที่เกิดเหตุจึงหลบหนีไปเสียกอน ก็ไดชื่อวาเปนผูรวมกระทํา
              ความผิดแลว

                               คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè öööó/òõóù  จําเลยที่ ๓ จับมือปดปากผูเสียหายเพื่อให
              จําเลยที่ ๑ และจําเลยที่ ๒ ผลัดเปลี่ยนกันขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายตอเนื่องกันเปนการรุมกันกระทํา
              ตอผูเสียหาย ถือไดวาจําเลยที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ รวมกันกระทําชําเราอันมีลักษณะเปนการโทรมหญิง

                               คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè ñõõø/òõôó  แมจําเลยจะมิไดเปนผูลงมือขมขืนกระทํา
              ชําเราผูเสียหาย แตพฤติการณที่จําเลยชวยกันฉุดผูเสียหายและชวยกดคอและตบตีผูเสียหายเพื่อให

              พวกของจําเลยขมขืนกระทําชําเราผูเสียหายในลักษณะโทรมหญิงนั้นถือไดวาจําเลยได໚¹μÑÇ¡ÒÃรวม
              กระทําผิดดวยกันกับพวกของจําเลยแลว จําเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๖

              วรรคสอง (»˜¨¨ØºÑ¹¤×ÍÇÃäÊÒÁ) ประกอบดวยมาตรา ๘๓
   322   323   324   325   326   327   328   329   330   331   332