Page 45 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 45

๓๒




                          คํา͸ԺÒÂ
                          ตามความหมายของบทนิยามนี้กรณีจะถือวาเปน “คาไถ” จะตองประกอบดวย

                          ËÅѡࡳ± ó »ÃСÒä×Í
                          ๑.  ตองเปนทรัพยสินหรือประโยชน คําวา “ทรัพยสิน” ประมวลกฎหมายแพง
              และพาณิชยมาตรา ๑๓๘ บัญญัติวา “ทรัพยสินนั้นทานหมายความวารวมทั้งทรัพยและวัตถุไมมีรูปราง

              ซึ่งอาจมีราคาไดและถือเอาได” เชน ที่ดิน บานเรือน ตึก ทองคํา เพชรนิลจินดา รถยนต หรือ
              วัตถุอื่นใดที่มีราคาและถือเอาได คําวา “ประโยชน” นั้นรวมทั้งประโยชนที่ไมเกี่ยวกับทรัพยสินดวย

              เชน ยกลูกสาวใหเพื่อใหถอนฟองคดีที่ถูกฟองอยูในศาล
                          ๒.  ทรัพยสินหรือประโยชนนั้น ตองเปนสิ่งที่ผูกระทําผิดเรียกเอาหรือฝายผูเอาตัวไป
              ผูถูกหนวงเหนี่ยวหรือกักขังใหเองก็ได ประโยชนที่เรียกเอานี้ไมมีขอจํากัดวาควรไดโดยชอบดวย

              กฎหมายหรือไม ซึ่งตางกับทุจริตในมาตรา ๑ (๑) ฉะนั้น ถึงแมจะเปนประโยชนที่ควรได แตถาเรียกเอา
              โดยวิธีการเพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผูถูกเอาตัวไป ก็ถือวาเปนคาไถแลว

                          ๓.  ในการเรียกทรัพยสินหรือประโยชนนั้น  ตองเปนการเรียกเอาหรือให
              เพื่อแลกเปลี่ยนเสรีภาพของผูถูกเอาตัวไป ผูถูกหนวงเหนี่ยวหรือกักขัง
                          เมื่อประกอบดวยหลักเกณฑทั้ง ๓ ประการแลวจึงเปน “คาไถ”

                          ®Õ¡Ò·Õè ñðöñ/òõðô  จับเจามือสลากกินรวบขูเรียกเอาเงินที่ติดคางที่เชื่อวาตนควร
              จะได ศาลเห็นวาไมใชคาไถ

                          ®Õ¡Ò·Õè ÷÷ôò/òõôò  การที่จําเลยทั้งสองกับพวกรวมกันหนวงเหนี่ยวกักขังตัว
              ผูเสียหาย ก็เพื่อใหผูเสียหายชําระหนี้ใหแกจําเลยที่ ๑ โดยจําเลยทั้งสองเชื่อวาสามารถกระทําได
              ดังนั้นประโยชนที่จําเลยที่ ๑ เรียกรองใหผูเสียหายชําระหนี้จึงไมใชคาไถตามความหมายในบทนิยาม

              คําวา “คาไถ” ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑ (๑๓) การกระทําของจําเลยทั้งสองจึงไมเปน
              ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๓ วรรคสอง

                          (ñô) “ºÑμÃÍÔàÅç¡·Ã͹ԡʏ” หมายความวา
                                (ก)  เอกสารหรือวัตถุอื่นใดไมวาจะมีรูปลักษณะใดที่ผูออกไดออกใหแกผูมีสิทธิใช
              ซึ่งจะระบุชื่อหรือไมก็ตาม โดยบันทึกขอมูลหรือรหัสไวดวยการประยุกตใชวิธีการทางอิเล็กตรอนไฟฟา

              คลื่นแมเหล็กไฟฟา หรือวิธีอื่นใดในลักษณะคลายกัน ซึ่งรวมถึงการประยุกตใชวิธีการทางแสงหรือ
              วิธีการทางแมเหล็กใหปรากฏความหมายดวยตัวอักษร ตัวเลข รหัส เลขหมายบัตร หรือสัญลักษณ

              อื่นใด ทั้งที่สามารถมองเห็นและมองไมเห็นดวยตาเปลา
                                (ข)  ขอมูล  รหัส  หมายเลขบัญชี  หมายเลขชุดทางอิเล็กทรอนิกสหรือ
              เครื่องมือทางตัวเลขใดๆ ที่ผูออกไดออกใหแกผูมีสิทธิใช โดยมิไดมีการออกเอกสารหรือวัตถุอื่นใดให

              แตมีวิธีการใชในทํานองเดียวกับ (ก) หรือ
                                (ค)  สิ่งอื่นใดที่ใชประกอบกับขอมูลอิเล็กทรอนิกส  โดยมีวัตถุประสงค

              เพื่อระบุตัวบุคคลผูเปนเจาของ
   40   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50