Page 129 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 129

๑๒๒





               ¢ŒÍÊѧà¡μ
                       ๑)  ในการจับกุมใชหลักเกณฑที่กําหนดไวในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นอกจากนี้ ไดมีคําพิพากษา
               ศาลฎีกาที่ไดวางหลักเกณฑในเรื่องของการจับกุมไว กลาวคือ
                          (๑)  การจับแมจะเปนการ¨ÑººØ¤¤Åã¹·ÕèÊÒ¸ÒóР¡ç¨ÐμŒÍ§ÁÕËÁÒ¨Ѻ เวนแตจะเขาขอยกเวนตามประมวล
               กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗๘
                          (๒)  กรณีมี¼ÙŒ¢ÍãËŒ¨Ñºâ´Âᨌ§Ç‹ÒºØ¤¤Å¹Ñé¹ä´Œ¡ÃÐทํา¤ÇÒÁ¼Ô´áÅÐᨌ§´ŒÇÂÇ‹Ò䴌Ìͧ·Ø¡¢äÇŒμÒÁÃÐàºÕº¹Ñé¹
               äÁ‹à»š¹¢ŒÍ¡àÇŒ¹·ÕèãËŒอํา¹Ò¨¾¹Ñ¡§Ò¹½†Ò»¡¤ÃͧËÃ×ÍตําÃǨ¨Ñºâ´ÂäÁ‹μŒÍ§ÁÕคําÊÑè§ËÃ×ÍËÁÒ¢ͧÈÒÅ เนื่องจากมิใชกรณี
               เปนความผิดซึ่งหนาหรือมีเหตุจําเปนอยางอื่นที่ใหจับได (บันทึกสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ ๔๕๒/๒๕๔๖
               (หารือปญหาขอกฎหมายเดียวกับการจับกุมฯ)) ดังนั้น กรณีดังกลาวจึงจับกุมมิได
                          (๓)  การทําบันทึกการจับกุมจะบันทึก ณ ที่เกิดเหตุ หรือสถานีตํารวจ ก็สามารถกระทําไดเพราะ¡®ËÁÒÂ
               äÁ‹ä´ŒºÑ§¤ÑºÇ‹Ò ¨ÐμŒÍ§ทําºÑ¹·Ö¡¡ÒèѺ¡ØÁã¹Ê¶Ò¹·Õè·Õè¨Ñº¡ØÁ  การทําบันทึกการจับกุมที่สถานีตํารวจซึ่งกระทําในเวลา
               ไลเลี่ยกัน จึงกระทําได (คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๙๒/๒๕๓๖)
                          (๔)  แมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๔ วรรคทาย จะบัญญัติมิใหนําคํารับสารภาพ
               นั้นจับกุมเปนพยานหลักฐานก็ตาม แต¢ŒÍ¤ÇÒÁÍ×蹫Öè§à»š¹¢ŒÍà·ç¨¨ÃÔ§·Õè»ÃÒ¡¯ã¹คําÃѺÊÒÃÀÒ¾ กฎหมายมิไดหามนํามา
               รับฟงเสียทีเดียว ดังนั้น ขอความหรือขอเท็จจริงใด ซึ่งมิใชคํารับสารภาพวาเปนผูกระทําความผิด หากเจาพนักงานตํารวจ
               ไดแจงสิทธิในขณะที่ผูนั้นถูกจับแลว กฎหมายไมไดหามมิใหรับฟงเสียทีเดียว (คําพิพากษาฎีกาที่ ๑๒๘๐/๒๕๕๗)
                          (๕)  ¡ÒÃäÁ‹á¨Œ§ÊÔ·¸Ôตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๗/๑ ทําãËŒºÑ¹·Ö¡¡ÒèѺ¡ØÁ
               äÁ‹ÍÒ¨ÃѺ¿˜§ä´Œ (คําพิพากษาฎีกาที่ ๔๐๖๓/๒๕๔๙)
                       ๒)  บันทึกการจับกุมเปนสิ่งสําคัญอยางยิ่งตอการสอบสวนดําเนินคดี เพราะจะเปนสิ่งที่บงบอกวามีการ
               กระทําความผิดหรือไม ดังนั้น
                          (๑)  ในบันทึกการจับกุมจะตองŧÃÒÂÅÐàÍÕ´áË‹§¾ÄμÔ¡Òóตางๆ ที่เกิดขึ้น ขอเท็จจริงที่เจาพนักงานตํารวจ
               ผูเขาทําการจับกุมไดดําเนินการอะไรบาง เชน กอนเขาทําการจับกุมไดมีการเฝาสะกดรอยติดตามผูกระทําความผิด มีการใช
               สายลับเขาไปสังเกตการณเก็บขอมูลและไดขอเท็จจริงอยางไรบาง
                          (๒)  จะตองมีรายละเอียดที่แสดงใหเห็นวาผูกระทําความผิดนั้นä´Œ¡ÃÐทํา¡ÒÃáÅÐ㪌ÇÔ¸Õ¡ÒÃÍ‹ҧäÃบาง
               ที่เขาองคประกอบความผิด
                          (๓)  มีÀÒ¾¶‹ÒÂáÅоÂÒ¹ËÅÑ¡°Ò¹ÍÐäÃบางที่สามารถนําไปในการยืนยันถึงการกระทําความผิด
               ตลอดจนการทําแผนผังแสดงใหเห็นถึงการเชื่อมโยงของผูรวมกระทําความผิดวาใครทําหนาที่อยางไรในการที่กระทําความผิด
               ไดทําเปนขบวนการ เพราะจะสามารถดําเนินคดีกับผูกระทําความผิดทุกคนที่เกี่ยวของไดอยางถูกตองและในขอหาที่หนักขึ้นได
                          (๔)  ในกรณีผูเสียหายเปนเด็ก จะตองºÑ¹·Ö¡äÇŒãËŒªÑ´à¨¹Ç‹Òà´ç¡àÃÔèÁ¶Ù¡ÅÐàÁÔ´ËÃ×Ͷ١¡ÃÐทํา¤ÃÑé§áá
               μÑé§áμ‹àÁ×èÍäËË  และ¤ÇÃนําคําÊÑÁÀÒɳ¢Í§¹Ñ¡¨ÔμÇÔ·ÂÒËÃ×͹ѡÊѧ¤ÁÇÔ·ÂÒ·ÕèࢌÒËÇÁÊÑÁÀÒɳà´ç¡¹Ñé¹ÁÒÃÇÁ¡Ñº
               ºÑ¹·Ö¡¡ÒèѺ¡ØÁดวย เพื่อยืนยันความชัดเจน กรณีไมชัดเจนเรืื่องอายุเด็ก ควรจะตองบรรยายไวดวยวา จากการสังเกต
               เรืื่องพฤติกรรมการพูดคุย ลักษณะรูปราง มีเหตุอันควรเชื่อไดวา ผูเสียหายอายุตํ่ากวา ๑๘ ป
   124   125   126   127   128   129   130   131   132   133   134