Page 229 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 229

๒๒๒




                          คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè ùôñó/òõóù โจทกไมมีประจักษพยานเห็นจําเลยที่ ๓ เปน
              คนรายขณะเกิดเหตุ พยานหลักฐานโจทกมีเพียงบันทึกการจับกุมบันทึกคําใหการชั้นสอบสวนที่จําเลย

              ที่ ๓ ใหการรับสารภาพบันทึกนําชี้ที่เกิดเหตุประกอบคํารับสารภาพและภาพถายซึ่งจําเลยที่ ๓ ปฏิเสธ
              ในชั้นศาลและไมปรากฏขอเท็จจริงวาจําเลยที่ ๓ ไดรับสวนแบงทรัพยที่ถูกปลน จึงเปนพยานบอกเลา

              ที่ไมมีนํ้าหนักเพียงพอใหรับฟงวาจําเลยที่ ๓ รวมปลนทรัพยของผูเสียหายทั้งสอง
                          คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè øñôø/òõõñ เจาพนักงานตํารวจเปนผูจับจําเลยมิใชราษฎร

              เปนผูจับจึงไมมีกรณีที่จะตองแจงสิทธิตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๘๔ วรรคหนึ่ง แตเจาพนักงานตํารวจ
              ผูจับตองแจงสิทธิตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๘๓ วรรคสอง เมื่อบันทึกการจับกุมมีขอความวาจําเลยใหการ

              รับสารภาพ จึงตองหามมิใหนําคํารับสารภาพในชั้นจับกุมของผูถูกจับมารับฟงเปนพยานหลักฐานตาม
              ป.วิ.อ. มาตรา ๘๔ วรรคสี่ และเมื่อบันทึกการจับกุมไมมีขอความใดที่บันทึกการแจงสิทธิแกจําเลย

              ผูถูกจับตามที่ ป.วิ.อ. มาตรา ๘๓ วรรคสอง บัญญัติเลย ทั้งพยานโจทกที่รวมจับกุมก็ไมไดเบิกความถึง
              เรื่องการแจงสิทธิแตอยางใด แมโจทกจะสงบันทึกการแจงสิทธิผูถูกจับมาพรอมกับบันทึกการจับกุมใน

              ชั้นพิจารณาสืบพยานโจทก แตบันทึกการแจงสิทธิผูถูกจับดังกลาวมีลักษณะเปนแบบพิมพเติมขอความ

              ในชองวางดวยนํ้าหมึกเขียนโดยเจาพนักงานตํารวจผูบันทึกเปนคนละคนกับที่เขียนบันทึกการจับกุม
              ทั้งใชปากกาคนละดามและไมมีขอความวาผูถูกจับมีสิทธิจะใหการหรือไมใหการก็ได กับไมมีขอความวา
              ถอยคําของผูถูกจับนั้นอาจใชเปนพยานหลักฐานในการพิจารณาคดีไดแตอยางใด แมจะมีขอความ

              แจงสิทธิเรื่องทนายความก็เปนการแจงสิทธิไมครบถวนตามที่ ป.วิ.อ. มาตรา ๘๓ วรรคสองบัญญัติ

              ฉะนั้นถอยคําอื่นของจําเลยตามบันทึกการจับกุมจะรับฟงเปนพยานหลักฐานในการพิสูจนความผิด
              ของจําเลยหาไดไมเชนกัน ดังนั้น บันทึกการจับกุมจึงไมอาจอางเปนพยานหลักฐานไดเพราะเปนพยาน

              หลักฐานที่เกิดขึ้นโดยไมชอบ ทั้งนี้ ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๒๒๖
                          คํา¾Ô¾Ò¡ÉÒÈÒŮաҷÕè ññùó/òõôò  คดีนี้โจทกไมมีประจักษพยานที่รูเห็นเหตุการณ

              มาเบิกความตอศาล คงมีแตคําเบิกความของพนักงานสอบสวนวา หลังเกิดเหตุ ผ. มาแจงวาจําเลย
              มาบอกกับ ผ. วาจําเลยทําอาวุธปนลั่นถูกผูตาย ซึ่งเปนการไดรับคําบอกเลามาจาก ผ. อีกทอดหนึ่ง

              และถอยคําที่รับฟงมาก็มิไดยืนยันวาจําเลยยิงผูตายโดยมีเจตนาฆาเปนแตเพียง ผ. ไดรับคําบอกเลา
              จากตัวจําเลยวาจําเลยทําอาวุธปนลั่นถูกผูตาย ความจริงจะเปนเชนใด ผ. ก็มิไดรูเห็นเหตุการณดวย

              ตนเอง ทั้งโจทกก็มิไดตัว ผ. ซึ่งเปนพยานสําคัญมาสืบในชั้นพิจารณาคดีของศาลคงสงอางบันทึก
              คําใหการในชั้นสอบสวนของ ผ. ซึ่งบันทึกดังกลาวพนักงานสอบสวนจัดทําขึ้นฝายเดียวและจําเลย

              ไมมีโอกาสโตแยงคัดคาน จึงยังไมอาจรับฟงยืนยันวาเปนความจริงดังกลาวได ทั้งขอความในบันทึก
              การจับกุมก็ระบุเพียงวา จําเลยใหการรับสารภาพเทานั้นหาไดมีขอความบันทึกระบุถึงพฤติการณ

              แหงการกระทําผิดไวไม ซึ่งขอความดังกลาวเปนสาระสําคัญสวนหนึ่งของพฤติการณแหงคดี บันทึก
              การจับกุมดังกลาว จึงยังไมอาจชี้ยืนยันวาจําเลยกระทําความผิด พยานหลักฐาน โจทกยังไมพอฟง

              ลงโทษจําเลยในความผิดฐานฆาผูตาย
   224   225   226   227   228   229   230   231   232   233   234