Page 226 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 226

๒๑๙




                 ตํารวจเปนอันขาด เมื่อไมรูไมเห็นหรือจําไมไดก็บอกไปตามตรงก็ยิ่งดีกวาบอกสง ๆ ไป หรือบอก
                 เพื่อโออวดหรือแสดงใหเห็นวาตนรูเห็นเหตุการณถี่ถวนตลอดในขอที่ซักถาม ซึ่งไมเปนความจริง

                 อีกประการหนึ่งสิ่งเฉพาะหนาที่ควรรูควรเห็นแท ๆ โดยมิตองใหความสังเกตเปนพิเศษอยางใด
                 หรือไดรูเห็นมาแลว แตมิไดเอาใจใสที่จะสังเกตหรือจดจําไว ครั้นถึงเวลาใหถอยคําหรือเบิกความ

                 ก็ไมรูไมเห็นจําไมได ดังนี้ก็ไมสมกับหนาที่ของตํารวจผูรักษาความสงบเรียบรอยที่ดี ตํารวจจะตอง
                 พยายามกระทําตนใหเปนผูมีหูไวตาไว ไหวพริบตอเหตุการณ รูจักสังเกตในสิ่งที่ควรสังเกต และจดจําไว

                 เพื่อความเที่ยงธรรม ในหนาที่เชิดชูเกียรติศักดิ์ของตํารวจใหเปนที่นิยมรักใครนับถือของประชาชน
                 ตอไป คดีบางเรืื่องแมจะมีพยานตํารวจผูเดียวก็อาจถือเปนขอชี้ขาดไดโดยปราศจากสงสัย ฉะนั้น

                 ใหผูบังคับบัญชาหมั่นอบรมตํารวจในเรื่องนี้และถือเปนความสําคัญ
                             ขอ ๒.  เมื่อขาราชการตํารวจถูกอางเปนพยานในคดีอาญา ใหปฏิบัติดังตอไปนี้

                                     (๑)  คดีอาญาที่พนักงานอัยการอางตํารวจเปนพยาน  ถาผูถูกอางเปน
                 นายตํารวจชั้นประทวนและพลตํารวจ ใหเปนหนาที่ของผูบังคับบัญชาผูทําการสอบสวนในคดีนั้นหรือ

                 สารวัตร หรือผูบังคับกองเรียกผูที่จะเปนพยานนั้นชี้แจงความจําของตนที่ไดใหการไวในการสอบสวน

                 เพื่อปองกันการหลงลืม แตถาเปนนายตํารวจชั้นสัญญาบัตรถูกอางเปนพยานแลว เปนหนาที่ของตํารวจ
                 ที่ถูกอางนั้นเตรียมตัวเปนพยานตามที่บันทึกไวในสํานวน แมสงสัยประเด็นขอใด ก็ใหติดตอกับ
                 พนักงานอัยการผูวาคดีในคดีนั้น

                                     (๒)  ถาจําเลยในคดีที่พนักงานอัยการฟองไดอางวาตํารวจคนใดเปนพยานจําเลย

                 ในคดีอาญา
                                          ¡. ¤´Õ¸ÃÃÁ´Ò ใหตํารวจที่ถูกอางรายงานชี้แจงขอความที่ตนรูเห็นตอ

                 ผูบังคับบัญชาที่ปกครองโดยตรงในที่นั้นทราบลวงหนาอยางนอย ๑ วัน ถาไมสามารถหรือไมมีเวลาพอ
                 ที่จะรายงานใหทราบไดตามกําหนดนี้ก็ใหรายงานโดยเร็วที่สุดที่สามารถจะทําได เมื่อผูบังคับบัญชา

                 โดยตรงรับรายงานทราบก็เปนอันพอ แตถาปรากฏวาเหตุผลที่จะเบิกความตามจําเลยอางนั้น
                 เกี่ยวแกระเบียบทางการของกรมตํารวจแลว ถาเปนตํารวจในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ใหผูบังคับบัญชา

                 นั้นเสนอไปจนถึงผูกํากับการหรือผูบังคับการ นอกจากนี้ใหเสนอจนถึงผูบังคับการพิจารณาอีกชั้นหนึ่ง
                                          ¢. ¤´ÕÍØ¡©¡ÃèËÃ×ͤ´Õà¡ÕèÂǡѺ¡ÒÃàÁ×ͧËÃ×ͤ´Õสํา¤ÑÞ ซึ่งจําเลยมีอิทธิพล

                 ใหรายงานเหตุผลที่ตํารวจผูถูกอางเปนพยานรูเห็นเพียงใด จนถึงผูบังคับการหรือผูกํากับการดังกลาว
                 ในทายของวรรคกอนและใหเปนหนาที่ของผูบังคับการหรือผูกํากับการพิจารณาเสนอใหผูบังคับบัญชา

                 เหนือทราบเปนเรื่อง ๆ ไป
                             ขอ ๓.  คดีที่ราษฎรฟองขาราชการตํารวจในคดีอาญา เนื่องจากการกระทําการตาม

                 หนาที่ ถาราษฎรอางตํารวจเปนพยานได ตํารวจผูที่จะเปนพยานนั้นรายงานขอความที่ตนรูเห็นตอ
                 ผูบังคับบัญชาของตนตามลําดับชั้น ถาเปนตํารวจในจังหวัดกรุงเทพมหานคร ใหรายงานถึงผูบังคับการ

                 เวนแตหนวยใดมีผูบังคับบัญชาเพียงชั้นผูกํากับการก็ใหรายงานถึงผูกํากับการ นอกจากนี้ ใหรายงาน
   221   222   223   224   225   226   227   228   229   230   231