Page 26 - กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
P. 26
๑๙
(ñô) ⨷¡ หมายความถึง “พนักงานอัยการ หรือผูเสียหายซึ่งฟองคดีอาญาตอศาล
หรือทั้งคูในเมื่อพนักงานอัยการและผูเสียหายเปนโจทกรวมกัน”
จากคําจํากัดความนี้ สามารถแยกผูที่เปนโจทกในคดีอาญาได คือ
๑. พนักงานอัยการ
๒. ผูเสียหาย
๓. ทั้งพนักงานอัยการ และผูเสียหายเปนโจทกรวมกัน
¾¹Ñ¡§Ò¹ÍÑ¡Òà ซึ่งมีหนาที่ฟองผูตองหาตอศาล (มาตรา ๒ (๕)) สามารถเปน
โจทกในคดีอาญาได และขอใหสังเกตวากฎหมายใชμíÒá˹‹§¾¹Ñ¡§Ò¹ÍÑ¡ÒÃ໚¹สํา¤ÑÞ ËÒ㪋กํา˹´
μÑǺؤ¤ÅäÁ‹ ดังนั้น ผูใดก็ตามที่ดํารงตําแหนงพนักงานอัยการ ซึ่งอยูในเขตอํานาจนั้น ๆ ยอมสามารถ
เปนโจทกไดโดยไมตองจํากัดดวยตัวบุคคล พนักงานอัยการจึงดําเนินคดีแทนกันได หากมีตําแหนงอยู
ในเขตอํานาจเดียวกัน และบุคคลที่ดํารงตําแหนงพนักงานอัยการที่อยูในทองที่เดียวกัน แมจะดําเนิน
แทนกันไดก็ยังสามารถลงชื่อแทนกันได เมื่อไดความหมายวา พนักงานอัยการเปนโจทก ไดยื่นฟองคดี
อาญาแลวก็สามารถที่จะดําเนินคดีไดตลอดถึงศาลอุทธรณและศาลฎีกา และสามารถมีอิสระเต็มที่ใน
การดําเนินคดีเทาที่อํานาจมีอยู ทั้งสิทธิในการดําเนินคดีก็แยกตางหากจากผูเสียหาย โดยไมขึ้นตอกัน
ดังนั้น ใน¡Ã³Õ໚¹¤ÇÒÁ¼Ô´μ‹ÍἋ¹´Ô¹ แมผูเสียหายจะไมติดใจดําเนินคดี พนักงาน
อัยการก็มีอํานาจฟองคดีนั้นได โดยไมตองพิจารณาถึงความตองการของผูเสียหาย ทั้งนี้ เพราะใน
ปจจุบันถือกันวาความผิดอาญาเปนความผิดที่เกิดแกรัฐหรือสังคม รัฐจะตองรับผิดชอบในความผิด
อาญาที่เกิดขึ้น รัฐจึงเปนผูฟองดําเนินคดี โดยตั้งพนักงานอัยการขึ้นเพื่อดําเนินคดีแทนรัฐ
¼ÙŒàÊÕÂËÒ ซึ่งหมายถึงบุคคลที่ไดรับความเสียหายเนื่องจากการกระทําความผิด
ฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งผูที่มีอํานาจจัดการแทนได ตามที่กฎหมายกําหนดนั้น ก็ยอมมีสิทธิเปนโจทก
ฟองคดีอาญาได เมื่อผูเสียหายฟองคดีอาญาแลวก็ยอมมีฐานะเปนโจทกตามกฎหมาย และมีอํานาจ
อิสระในการดําเนินคดีไมขึ้นอยูกับฝายใด เหมือนอํานาจอิสระเชนเดียวกับพนักงานอัยการ
กรณีที่ผูเสียหายเปนโจทก ผูเสียหายเทานั้นที่จะตองลงลายมือชื่อโจทกในคําฟอง
ผูอื่นที่ไมใชผูเสียหายจะลงลายมือชื่อชองโจทกไมได
อยางไรก็ตาม คําวาโจทกในที่นี้ ถาËÒ¡ÁÕ¡ÒÃÁͺอํา¹Ò¨ãËŒÁÕ¡ÒÃทําá·¹ เชน
ผูเสียหายมอบอํานาจใหผูใดฟองคดี ผูรับมอบอํานาจถือวามีฐานะเปนโจทกดวย และถือวาเปนคูความ
ผูรับมอบอํานาจจึงสามารถลงชื่อในชองโจทกก็ได และลงชื่อในชองผูเรียงไดดวย (ฎีกาที่ ๕๐๒/๒๕๒๓,
ฎีกาที่ ๘๙๐/๒๕๐๓)
¾¹Ñ¡§Ò¹ÍÑ¡ÒÃáÅмٌàÊÕÂËÒÂ໚¹â¨·¡Ã‹ÇÁ¡Ñ¹ การที่ทั้งสองฝายตางก็มีอํานาจ
อิสระเปนโจทกรวมกันนี้ ก็ตองถือวามีอํานาจเปนโจทกเหมือนกัน และทั้งสองฝายก็ยังถือวาเปนโจทก
ที่มีอํานาจอิสระดวยกันเหมือนเดิม แตกฎหมายคงมีขอจํากัดอํานาจของผูเสียหายไวในกรณีที่เปนโจทก
รวมกันนี้ ในมาตรา ๓๒ ที่วา “เมื่อพนักงานอัยการและผูเสียหายเปนโจทกรวมกัน ถาพนักงานอัยการ