Page 86 - ดับตัวตนค้นธรรม2566
P. 86
78
ความไมส่ บายความทกุ ขน์ นั้ จางไป ดบั ไป เลอื นไป หายไป... นนั่ กค็ อื ลกั ษณะ การดับไปของความทุกข์ ในการรับรู้เสียงหรือความคิดก็เป็นแบบเดียวกัน น่ันคือลักษณะอาการพระไตรลักษณ์ น่ีคือวิธีการดับทุกข์
ที่บอกไว้ตั้งแต่วันพระที่แล้วว่า พอเราแยกรูปนามได้แล้ว ก็นาจิต ที่ว่างเบาไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในชีวิตของเรา บางทีคนเราไม่ค่อย มีเวลาให้กับตนเองมาเจริญกรรมฐาน หรือปลีกวิเวกมาปฏิบัติอย่างเต็มที่ จริง ๆ ได้ ก็เอาตรงน้ีไปใช้กับชีวิตประจาวัน เพราะไม่ใช่ว่าปล่อยวางแล้วไม่ รบั รอู้ ะไร แคท่ า ใจใหว้ า่ ง โลง่ เบา แลว้ เอาใจทว่ี า่ งไปรบั รอู้ ารมณ์ ตรงนสี้ งั เกต ดูว่าทาไมถึงยกตัวอย่างให้ใช้กับความคิด เพราะความคิดเกิดอยู่แล้วใน ชีวิตประจาวันของเรา แต่ในการรับรู้อารมณ์อ่ืน ๆ ก็นาไปใช้ได้เช่นเดียวกัน เพราะธรรมชาติของจิตก็ทาหน้าท่ีรู้เป็นปกติอยู่แล้ว เพียงแต่ใช้จิตประเภทไหน ในการรับรู้อารมณ์... จิตท่ีหนัก จิตที่อึดอัด จิตท่ีเร่าร้อน จิตท่ีนุ่มนวล จิตที่อ่อนโยน จิตท่ีผ่องใส จิตท่ีโล่ง จิตท่ีโปร่ง จิตที่เบา หรือจิตท่ีม่ันคงแค่น้ันเอง นั่นคือความแตกต่างของจิตที่ใช้ในการรับรู้อารมณ์ เพราะฉะน้ัน เราฝึกจิต แล้วมีเจตนาที่จะใช้จิตตรงนี้ในการรับรู้อารมณ์ในชีวิตประจาวัน ก็กลายเป็น การปฏิบัติธรรมไปโดยปริยาย อย่างง่าย ๆ ไม่ยากด้วย
78