Page 106 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 106

626
จริง ๆ ธรรมะตรงนี้ จริง ๆ แล้ว ใครมาหาอาจารย์โชคดี นอกจากฟังเรื่องของพระสารีบุตรไปนิด หน่อย อาจารย์มาครั้งแรก โยคีที่เขาสลับกันหุงหาอาหารให้ หาอาหารให้ทานนี่นะ เข้าครัวทุกวัน เราก็เอ่อ! ค น น นั ้ เ ห น็ แ ต ค่ ว า ม ด ขี อ ง เ ข า ต ล อ ด อ า ห า ร ม อื ้ ห น งึ ่ ก น็ กึ ถ งึ พ ร ะ ส า ร บี ตุ ร ว า่ ท กุ ค น ก เ็ ป น็ ป ก ต ิ ท กุ ค น ม ปี ญั ญ า มีกิริยา มีจริต มีเอ่อ!...เขาเรียกอะไร อุปนิสัยที่แตกต่างกัน แต่ความดีอันไหนที่ทาให้เรารู้สึก มองแล้วเห็น ความดีเรารู้สึกสบายใจ อ๋อ!ตอนนี้เขาดีตรงนี้ ดีตรงนี้ตักน้าให้ทาน ตักน้าให้ฉัน ถวายน้าให้ฉัน พระนี่นะ ถ้าโยมไม่ถวายก็ฉันยากแล้วนะ แค่เขาไม่ถวายนี่ก็จะหาฉันเองนี่ก็ลาบาก มันเป็นอะไรที่เราระลึกถึงความ ดีของแต่ละคน เราก็สบายใจ มีแต่ความสุข
เวลาสอนเวลาจะดุทีก็นะ...เกรงใจ เกรงใจข้าวแดงแกงร้อน จริง ๆ โยคีดี ไม่ต้องดุมาก จริง ๆ พอเจอปุ๊บ มาเจอท่านแม่ครูฯ อีก พอเจอท่านแม่ครูฯ ท่านจะดูแลแม่ของท่านอย่างดี ท่านดูแลอย่างดีเลย แตล่ ะคน...พวกเรากเ็ หมอื นกนั ...ดแู ล เปน็ คนทมี่ คี วามกตญั ญใู นตวั ดแู ลพอ่ แม่ ดแู ลผมู้ พี ระคณุ ใหม้ อี ะไร ช่วยเหลือกัน หยิบยื่นช่วยเหลือกัน ให้แต่ละคนมีความสุข ไปเจอ...แล้วเห็นท่านทาเราก็ทา
อาจารย์ชอบแบบมีตัวอย่างดี ๆ แล้วจะชอบจา ชอบจานะ ไม่รู้สิยังระลึกได้เรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ เวลาจะคิดอะไรก็ อ๋อ!ท่านทาแบบนี้ ๆ ทาให้ดู แต่ในขณะเดียวกัน ความดีของท่านกับของเราไม่เหมือน กัน เราก็ดูว่าในบริบทของเรา เราทาอะไรได้ ความพิเศษเฉพาะตัว จริง ๆ ทาได้นิดเดียว ทาตามที่ท่านพูด ได้นิดเดียว ความรู้ที่ท่านมี ความดีที่ท่านสอน ยังเอามาทาปฏิบัติตามได้...นิดเดียว ถ้าทาได้อย่างที่ท่านทา น่าจะเป็นอะไรที่ดูดีนะ ถ้าโยคีทุกคนทา
คือท่านจะมองย้อนกลับมาที่ตัวเอง อีกจุดหนึ่งก็คือว่าท่านบอกว่า อีกคาสอนหนึ่งท่านบอกว่า ถ้า เราไม่ชอบกิริยาแบบนี้ของคนอื่น เราต้องบอกตัวเองเลยว่า ฉันจะไม่ทาอย่างนี้กับคนอื่น กับบุคคลอื่นต่อ ไป ไม่ใช่ว่า คือไม่ชอบกิริยาหรือคาพูดแบบไหน จะเก็บสอนตัวเองเอาไว้ จะไม่แสดงกิริยาอันนี้กับคนอื่น เพราะเราเองยังไม่ชอบเลย แล้วคนอื่นจะชอบได้อย่างไร เรายังไม่ชอบเลย แล้วคนอื่นจะชอบได้อย่างไร ท่านพูดแค่นี้ ท่านเล่าให้ฟัง ท่านก็ไม่ได้บอกอย่าทาอย่างนั้นนะ ไม่ควรทาอย่างนั้นนะ แต่ท่านเล่าให้ฟัง ฟัง แล้วเราก็รู้สึก อ๋อ!นี่คือคาสอน บางอย่างท่านสอนให้รู้จักสังเกต ท่านก็บอกว่าท่านเล่าให้ฟัง ตอนท่านเป็น เด็ก เอ่อ!เป็นฆราวาสนี่นะ ไปถามคุณยายอยู่ในครัวงานยุ่ง คุณยายท่านบอกงานเยอะงานยุ่ง เวลาทาครัว รีบ ๆ ท่านถามว่ามีอะไรให้ช่วยบ้าง มีตาก็ดูเองสิ คือสอนแบบคนจีน มีตาก็ดูเอาเองสิ ท่านเล่าให้ฟัง แล้ว ท่านก็...ต่อไปท่านก็จะสังเกตแล้ว เวลาจะทาอะไร จะหยิบอะไรช่วยหยิบ ช่วยทาให้ดู ช่วยหยิบ ระวังไม่ ต้องบอก แค่ดูว่า ศึกษาดู ท่านต้องการอะไรตรงไหนช่วยหยิบนะ
อาจารย์ไม่เคยได้ยินจากที่อื่น เพราะอาจารย์ไม่มีประสบการณ์ อาจารย์ออกจากบ้านมา...มาอยู่ นี่...อยู่เลย ที่เดินก็เดินไปเรื่อย ๆ แล้วไปเจอแบบ อ๋อ!ท่านเล่าให้ฟังแบบนี้เราก็รู้ แต่สิ่งเหล่านี้ก็อาศัยการ สังเกตควบคู่กัน และสิ่งเหล่านี้ทาให้เรารู้จักว่า เวลาปฏิบัติธรรมนี่นะ เวลาเราปฏิบัติ เวลาเราเจาะสภาวะ ไม่ใช่เฉลยอย่างเดียว ต้องสังเกตดูสิว่าต่อไปเป็นอย่างไร สังเกตให้ดี นอกจากอาการนี้มีอะไรอีก นอกจาก อาการเกิดดับ นอกจากเวทนา สภาพจิตเป็นอย่างไร สภาพจิตมีกาลังไหม จิตที่สงบมีกาลังมากกว่าเดิม


































































































   104   105   106   107   108