Page 131 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 131

651
หนึ่ง จะเป็นแนวทางอีกอย่างหนึ่งที่เราจะเดินไปข้างหน้า อย่างที่เคยบอกแล้วว่า อาการเกิดดับคือแนวทาง คือทางเดินไปสู่เป้าหมายเพื่อการดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง
เพราะฉะนนั้ เมอื่ มอี าการเกดิ ดบั ของอารมณใ์ ดอารมณห์ นงึ่ ขนึ้ มา กเ็ ขา้ ไปกา หนดรู้ ตามรอู้ าการเกดิ ดบั ๆ ๆ ๆ อาการเกดิ ดบั เปน็ อยา่ งไร กเ็ กาะตดิ มงุ่ เขา้ ไป มงุ่ เขา้ ไปเหมอื นเราเดนิ เขา้ ไปในความสงบ เหมอื น เดินเข้าไปในความสุขแบบเดียวกัน แต่มุ่งเข้าไปเดินเข้าไปตามอาการเกิดดับไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ จนอาการเกิด ดับนั้นหมดไป พออาการเกิดดับนั้นสิ้นสุด...หมดไป ก็สังเกตต่อว่า พออาการเกิดดับหมดไป สภาพจิตใจ รู้สึกอย่างไร ๆ นิ่งขึ้น สงบขึ้นอีก เงียบขึ้นอีก นั่นก็คือบรรยากาศของสภาพจิตที่เกิดขึ้น
พอสงบขึ้น เงียบมากขึ้น นิ่ง...สังเกตในความเงียบความสงบ มีอาการอะไรเกิดขึ้นมาอีกในความ เงียบความสงบนั้น มีอาการอย่างไรเกิดขึ้น ถ้าไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้น ไม่มีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น เหลอื แตจ่ ติ ทรี่ สู้ กึ วา่ เงยี บสงบ เงยี บสงบ เขา้ ไปในความสงบลกึ ๆ เหมอื นเราเขา้ ไปในความวา่ ง เหมอื นเขา้ ไป ในความสุข เข้าไปในความสงบเอง จิตที่สงบ...พอเข้าไปแล้วจิตที่สงบเปลี่ยนไปอย่างไร มีความชัดเจนขึ้น มีความกว้างขึ้น มีความเบามากขึ้น มีความโล่งขึ้น หรือมีความหนาแน่นขึ้น นี่คือการเข้าไปรู้ถึงจิตที่สงบ แล้วดูเข้าไป เปลี่ยนอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น รู้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงเวลา มีสภาวะเดินทางต่อไป ให้รับรู้ต่อไป
พออาการเกิดดับหมดไป พอการเกิดดับหมดไป หรือว่างเหลือแต่ความสงบแล้ว มีอาการเต้นของ หวั ใจชดั ขนึ้ มา กม็ ารอู้ าการเตน้ ของหวั ใจตอ่ พออาการเตน้ ของหวั ใจหมดไป มแี สงมสี ขี นึ้ มาขา้ งหนา้ เขา้ ไป กาหนดรู้ มีความสว่างขึ้นมาข้างหน้าอีก เข้าไปในความสว่างนั้น เอาความรู้สึกเข้าไปในความสว่าง แล้ว ความสวา่ งเปลยี่ นอยา่ งไร ความสวา่ งทอี่ ยขู่ า้ งหนา้ มกี ารเปลยี่ นแปลงไหม ใหอ้ ยขู่ า้ งหนา้ อยขู่ า้ งบน ไมต่ อ้ ง ต่าเกิน...เดี๋ยวหลับ จะตั้งตัวตรงขึ้นยืดตัวให้ตรงขึ้นตั้งมั่นขึ้น แล้วพิจารณาข้างหน้า อาการที่ปรากฏอยู่ เฉพาะหน้า หรือบริเวณข้างหน้าระดับตาเรา ระดับตาที่มีอาการมีแสงสว่างขึ้นมา ถ้ามีแสงสว่าง มีอาการ เกิดดับปรากฏขึ้นมา นิ่ง...แล้วเข้าไปกาหนดรู้ ดูว่าเขาเปลี่ยนอย่างไร
เว้นแต่ว่า ถ้าอาการเกิดดับที่อยู่ข้างหน้า เกิดดับแล้วเขาลึกลงไป ต่าลง ๆ ก็ตามเข้าไปกาหนดรู้ อาการเกิดดับนั้นจนสิ้นสุด เหมือนจะต่าลงลึกลงไป ลึกลงไป พอเขาหยุดปึ้บก็ต้องถอยกลับมา ถอยมา ดูพิจารณาข้างหน้า ดูสภาพจิตแล้วก็ตั้งตัวให้ตรงใหม่ ตั้งตัวให้ตรงให้ตั้งม่ันขึ้น สติจะได้มีกาลังจะได้ ตื่นตัวขึ้น จากนั้นก็กาหนดต่อ อาการอะไรเกิดขึ้นอีก เราสังเกตดูสภาพจิตก่อน พอตั้งตรงขึ้นมาดูสภาพ จิตใจ รู้สึกสว่างขึ้นหรือตื่นตัวขึ้น เข้าไปกาหนดรู้ความรู้สึกที่สว่างและตื่นตัวนั้นอีก เข้าไปในความสว่าง เข้าไปในความตื่นตัว เข้าไปกาหนดรู้แล้วเขาเปลี่ยนอย่างไร สังเกตหลักการเหมือนเดิม เพียงแต่สภาวะเขา เปลี่ยนไป อารมณ์เปลี่ยนไป
ทนี ถี้ า้ เรากาหนดรวู้ า่ พอมารใู้ หม่ จติ มคี วามสขุ สงบมากกวา่ เดมิ และตงั้ มนั่ ขนึ้ สงบและตงั้ มนั่ มาก ขึ้น ตรงที่ตั้งมั่นมากขึ้นลองสังเกตดู ตั้งมั่นขึ้น สติมีกาลังมากขึ้นไหม ถ้ารูปร่างกาย บริเวณรูปรู้สึกหนัก ๆ เหมือนมีอะไรถ่วง ๆ ให้ถอยกลับมาแล้วคลายอาการที่ตัวก่อน คลายอาการที่รู้สึกว่าถ่วง ๆ หนัก ๆ อยู่


































































































   129   130   131   132   133