Page 145 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 145
665
ถงึ จะดี กวา้ งเทา่ ทเี่ รารสู้ กึ สบายและชดั เจน นนั่ ดสี า หรบั เรา คนอนื่ อาจจะกวา้ งไมม่ ขี อบเขตเทา่ จกั รวาลแลว้ กส็ บายมากเลย แตเ่ รากวา้ งพอกวา้ งเทา่ จกั รวาลเมอื่ ไหร่ บรรยากาศกบั สภาพจติ หายหมดเลย...ไมเ่ หลอื เลย แบบนั้นก็กว้างไม่ได้ ต้องกว้างเท่าที่เรารู้สึกว่ามีบรรยากาศห่อหุ้มตัว กว้างกว่าตัวอยู่แล้ว รู้สึกชัดมีความ สุขความสบายนี่นะ นั่นคือตามกาลังของเรา ตามกาลังของเรา แล้วพอเจริญกรรมฐาน พิจารณาดูตรงนี้ไป เรื่อย ๆ สติสมาธิมีกาลังมากขึ้น จิตเราดีขึ้น ละเอียดอ่อนขึ้น หรือสะอาดขึ้น ผ่องใสขึ้น แล้วเขาก็กว้างเอง โดยปริยาย ก็มีกาลังมากขึ้น
ทาไมเขาถึงกว้างได้ สังเกตทาไมถึงกว้างได้ จิตกว้างได้เพราะการชาระ การชาระอกุศลต่าง ๆ ที่ ตกค้างอยู่ภายในจิตใจเรา จิตยิ่งสะอาดยิ่งเบายิ่งว่างมันจะยิ่งกว้าง และก็กว้างไกลไป ใสไป กว้าง ยิ่งกว้าง ได้ สังเกตดูนะ ถ้าจิตเรายังไม่สะอาดนี่นะกว้างไม่ได้ มันได้แค่นี้แหละมันก็หลุด มันก็ถูกล็อค แค่นี้ ๆ เพราะฉะนั้นจิตยิ่งสะอาดก็ยิ่งกว้าง ๆ ยิ่งกว้างขึ้น ยิ่งอิสระมากขึ้นเรื่อย ๆ นี่แหละการดูสภาพจิต การที่รู้ ถึงบรรยากาศ อาจารย์จึงบอกว่าให้รู้นะว่าเป็นบรรยากาศของใคร เป็นบรรยากาศของจิต เป็นบรรยากาศ ของสภาพจิต เป็นบรรยากาศของความรู้สึก
เพราะอะไร บางครั้งโยคีจะรู้สึกว่านั่งอยู่ในที่ว่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่รู้ แล้วจิตเป็นอย่างไร...ไม่ได้ดู รู้แต่ ว่ามันนั่งอยู่ในที่ว่าง ๆ จริง ๆ แล้วต้องสังเกตรู้ได้เลยว่า เหมือนตอนนี้ เรานั่งอยู่ในบรรยากาศของความ สขุ นงั่ อยใู่ นบรรยากาศของความสงบ นงั่ อยใู่ นบรรยากาศของความรสู้ กึ ทสี่ ขุ นงั่ อยใู่ นบรรยากาศของความ รู้สึกที่สงบ นั่งอยู่ในบรรยากาศของความรู้สึกที่เบา นั่งอยู่ในบรรยากาศของความรู้สึกที่ใส สะอาด ความ รู้สึกที่เบา ความรู้สึกที่สงบ ความรู้สึกที่ใสสะอาด...อันนี้จะย้า
เพราะความรู้สึกอันนี้ สามารถทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ได้ แต่ไม่จาเป็นต้องไปทั้งหมด เห็นไหม ไม่ จาเป็นว่า พอเอาบรรยากาศไปรับรู้เสียงก็หด ๆ เข้ามา แล้วก็เอาไปทั้งหมดแบบนั้น ไม่จาเป็น เพราะตัว เขาเองใสอยู่แล้ว สงบอยู่แล้ว มีความสุขอยู่แล้ว พอฟังปุ๊บเขาก็ทาหน้าที่โดยอัตโนมัติ แค่เจตนาที่จะรู้ อันนั้นให้ชัด แค่เจตนา ตรงไหนที่เราชัดคือรสชาติที่รู้สึกสุข รู้สึกสงบ รู้สึกสบาย พอเห็นปื๊บความรู้สึกที่ สบายอยู่ที่ภาพนั้น พอเห็นปื๊บความรู้สึกที่สบายไปที่รูปนั้น แล้วก็กว้างกว่ารูปนั้น ไม่ต้องหดบรรยากาศนั้น มาทั้งหมด นี่คือใช้ความรู้สึกที่ดีแล้ว ทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ไป ใช้จิตที่ดีแล้วทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ไป ถ้าทา แบบนี้นะ บรรยากาศเราจะไม่หายง่าย ๆ หรอก เพราะอะไร คือเมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าบรรยากาศรอบ ๆ ตัวนั้นหายไป กลับมาดูข้างในเขาก็บานออก กลับมาดูปื๊บเขาก็จะกว้างออกไป แต่ถ้าเป็นผู้ดูอย่างเดียว อัน นี้แหละ เป็นผู้ดูบรรยากาศ บรรยากาศนั้นไม่ใช่สภาพจิต
ไม่ชัดว่าบรรยากาศนั้นเป็นบรรยากาศของความรู้สึก ไม่ชัดว่านั่นเป็นบรรยากาศของสภาพจิต แค่ บรรยากาศใส ๆ บรรยากาศสงบ เปน็ ความสงบของอะไร ของจติ หรอื เปลา่ กไ็ มร่ .ู้ ..ไมไ่ ดใ้ สใ่ จ พอบรรยากาศ นั้นหาย เพราะอะไรถึงหาย เพราะตัวรู้ หรือผู้ที่ทาหน้าที่รู้ จิตที่รู้นี่นะ ตัวผู้ดูนี่นะไม่มีรสชาติอะไรเลย ส่วน ใหญ่ก็จะกลายเป็นเหมือนเป็นวิถีจิตอย่างหนึ่ง ที่มันทาหน้าที่รู้แล้วก็ดับ ๆ พอสนใจ ไม่สนใจบรรยากาศ อันนี้ รสชาติไม่มี มันหายไปก็หายไปเลย เพราะฉะนั้นเวลาจะยกจิตขึ้นสู่ความสุข ยกจิตขึ้นสู่ความสงบอีก จึงทาได้ยาก ก็ต้องไปหาใหม่