Page 193 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 193
713
ทีนี้พอพูดถึงว่า คาว่า...อันนี้เป็นอนิจจลักษณะ ที่แปลว่า ความแปรปรวนเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ สังเกตดูว่าเดี๋ยวลมหายใจชัด เดี๋ยวไม่ชัดเดี๋ยว เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น เดี๋ยวเปลี่ยนไป เดี๋ยวเปลี่ยนไป เรื่อย ๆ ตรงนี้แหละ คือความเป็นอนิจจัง แต่การที่อาศัยความเปลี่ยนแปลง ความเป็นอนิจจังตรงนี้ การที่ เรายิ่งสังเกตยิ่งชัดมากเท่าไหร่ จิตเขาจะยิ่งคลาย เขาจะคลายอุปาทาน เพราะเขาจะเห็นชัดแล้วยึด ไม่ได้นะ มันไม่เป็นอย่างนี้ เดี๋ยวต้องรู้ปัจจุบัน ดูซิ!ว่าจะเป็นอย่างไร ๆ ตรงนี้สติปัญญาเกิดขึ้น แล้วจะ เกยี่ วขอ้ งกบั ชวี ติ ประจา วนั ของเราดว้ ย เพราะเรอื่ งราวทเี่ ราเคยคดิ วา่ เคยเปน็ แบบนี้ ๆ บางทเี ราอาศยั ความ เคยชิน หรือสัญญา เรื่องเก่า ๆ คิดว่า เพราะเขาเคยเป็นแบบนี้เขาต้องเป็นอย่างนี้ ๆ แสดงว่าคนเราเป็น แล้วเปลี่ยนไม่ได้ กลายเป็นของเที่ยง
เพราะฉะนั้นจะแก้ไขไมไ่ด้แม้แตก่บัคนอนื่หรอืตวัเองบางครงั้ตัวเองนี่นะไม่อยากเปลี่ยนตวัเองก็ คิดว่าก็ฉันเป็นแบบนี้ ๆ แล้วฉัน...คนนั้นอยู่ตรงไหน เอ่อ!ตรงนี้ มันเป็นแค่ความเข้าใจ เขาเรียกเป็นทิฏฐิ เป็นความคิด เป็นความรู้ เข้าใจ ในขณะหนึ่งที่คิดว่าต้องเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นการที่รู้ปัจจุบัน การรู้ ความเปลี่ยนแปลงความเป็นอนิจจังตรงนี้แหละ พอเรารู้ภายใน เราจะเห็นตัวเองมากขึ้น อย่างที่เห็นความ คิดที่มีความเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดของคนเรา ความอยากของคนเรา
เคยเห็นไหมว่า เราเคยอยากเรื่องเดียวตั้งแต่เด็กจนโตไหม...น้อย แต่ถ้าอยากยาว ๆ นั่นเขาเรียก เป็นความฝันเฉพาะตัว ฝันว่าอยากจะทาอะไรสักอย่างหนึ่งนานมาแล้ว รอโอกาสมา อยาก...อันนั้นอยาก นิดหนึ่ง แต่ความอยากของจิตเรา ก็จะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เข้ามาเป็นระยะ ๆ ประทับใจ เดี๋ยวชอบหรือ เดี๋ยวไม่ชอบ เขาก็จะเปลี่ยนไป อันนี้คืออย่างหนึ่ง สังเกตไหมว่าสิ่งเหล่านี้ทาไมเปลี่ยนได้ แต่ที่เราไม่อยาก เปลี่ยนก็คือว่า อะไรที่เปลี่ยนยากที่สุด นิสัยนะ...นิสัยนี่ซอฟทฺ (soft) มากเลย ถ้าลึกกว่านั้น ลึกกว่านั้น เอ่อ! แก้ยากจังเลย เพราะอะไร เป็นเพราะว่าตรงนี้แหละปัญญาที่เราเห็น เห็นแบบว่าความไม่มีตัวตน รูปนามนี้ไม่ใช่ของเรา จิตกับกายไม่ใช่ของเรา เป็นอารมณ์ เป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกันที่เกิดขึ้นมา ถ้าเรารู้ ตรงนี้ เวลาจะเปลี่ยนอะไร...เปลี่ยนตัวเอง มันเริ่มจากความไม่มีตัวตน ไม่ใช่เรา เราทาขึ้นมาใหม่ เปลี่ยน ใหม่ให้ดีกว่าเดิม...ได้ไหม จากคนอารมณ์ร้อนทาใจเย็น...ได้ไหม เอาสติมาใช้เยอะ ๆ ขึ้น...ได้ไหม นี่แหละ การปฏิบัติ การที่เริ่มเปลี่ยนตัวเอง
ทีนี้สิ่งที่เกิดขึ้น ความมหัศจรรย์ของธรรมะก็คือว่า เมื่อไรที่เห็นว่ากายกับใจแยกกัน จิตกับกาย เป็นคนละส่วนกัน เมื่อไหร่นะ ใช้คาว่า...ทาไมถึงบอกว่า...เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นถึงความเป็นคนละส่วน อายุอารมณ์จะสั้นลง ความทุกข์ความอยากความเอาแต่ใจก็สั้นเหมือนกัน เพราะอะไร พอเขาแยกกันปุ๊บ เขารู้สึกสบาย แต่เมื่อไหร่ที่เอาแต่ใจเขาจะอึดอัด แสดงว่าพอเอาแต่ใจปุ๊บเขาจะทุกข์ พอทุกข์จิตก็เห็นว่า เวลาไม่ทุกข์เขาดีอย่างไร เวลาทุกข์ขึ้นมาเขาก็พร้อมที่จะละ เขาไม่อยากทุกข์นาน นี่คือความฉลาดของ จิตเรา ถึงแม้เราอยากจะทุกข์นานก็ตาม แต่เขาจะไม่ทุกข์นาน ถ้าปัญญาตรงนี้เกิดขึ้นมา เขาจะวาง เขาจะ วางเร็ว นี่แหละ! ทาไมถึงต้องกาหนดรู้ถึงความเป็นคนละส่วน ระหว่างรูปกับนาม