Page 194 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 194

714
และทาไมพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า รูปนามอันนี้ประกอบด้วยขันธ์ ๕ ไม่ใช่เรา มีรูปมีเวทนามีสัญญา สังขารวิญญาณ พระพุทธเจ้าตรัส ก็เป็นคนละส่วนกันนะ แต่เราจับรวมกันแล้วก็เป็นของเรา สังเกตไหม เราจับมารวมกันแล้วก็บอกว่า...นี่เป็นเรา พอมีเวทนาขึ้นมาก็เวทนาของเรา พอมีสัญญามีความคิดขึ้นมา ความคิดของเรา ทั้ง ๆ ที่บอกว่าเป็นความคิดของเรา บอกให้เขาหยุด เขาไม่ยอมหยุดด้วยซ้า ไม่อยากจะ คิดก็คิด ๆ แล้วก็บอกว่าเป็นของเรา ของเราเมื่อไหร่ นั่นคือกลายเป็นว่า เราเข้าใจผิด
เพราะฉะนั้นการแยกจิตตรงนี้ การแยกรูปนาม แยกกายแยกจิตถึงบอกว่า พอแยกปุ๊บเขาก็ดับไป แยกแล้วจะรู้สึกเบา ตรงนี้พอเห็นว่ากายกับจิตเป็นคนละส่วนกัน จิตใจรู้สึก...เบา รู้สึกสบาย รู้สึกโล่ง ความทกุ ขด์ บั ไหม ตรงนเี้ ขาเรยี กสมั มาทฏิ ฐิ เปน็ ความเหน็ ทถี่ กู ตอ้ งตรงตามทพี่ ระพทุ ธเจา้ ตรสั เหน็ รปู นาม ไม่ใช่ของเรา เป็นคนละส่วนกัน ถึงแม้ยังเป็น...แต่เห็นเป็นคนละส่วนเมื่อไหร่ ความทุกข์ที่แบกมาก็หายไป อันนี้คือเห็นรูปกับนาม กายกับจิต
ทนี อี้ กี อยา่ งหนงึ่ ทบี่ อกวา่ อาการพระไตรลกั ษณ์ ทกุ ขลกั ษณะ อนจิ จลกั ษณะ คอื ความเปลยี่ นแปลง อยู่เรื่อย ๆ ทุกขลักษณะคือเกิดขึ้นแล้วดับไป เกิดขึ้นแล้วดับไป ตั้งอยู่อย่างนั้นตลอดไปไม่ได้ มีอะไร บ้างที่ตั้งอยู่อย่างนั้นตลอดไป เริ่มจากอาการทางกาย ลมหายใจเข้าไป แล้วก็หยุดอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา ได้ไหม...ไม่ได้ ไม่ออกก็ตาย หายใจออกแล้วไม่เข้าก็เป็นไปไม่ได้ เขาก็เข้าออก เข้าออก นี่คือความ เปลี่ยนแปลง อันนี้คือลมหายใจ แล้วร่างกายที่บอกว่าเป็นของเรา ตัวนี่นะ...ตัวที่นั่งอยู่นี่นะ เขาจะเป็นอยู่ อย่างนี้ตลอดไปไหม...ไม่หรอกนะ
ถามนดิ หนงึ่ นะ ตวั ทนี่ งั่ อยนู่ นี่ ะกบั ตอนเดก็ ๆ เปน็ ตวั เดยี วกนั ไหม เออ่ !ชกั ไมแ่ นใ่ จ ตวั เดยี วกนั ไหม ตัวเดียวกันนะ แน่ใจนะ...โตขึ้น เป็นเซลล์ตัวเดียวกันไหม เซลส์ตัวเดียวกันหรือเปล่า เปลี่ยนกี่รอบแล้ว นี่นะ นี่นะเห็นไหม แม้แต่เส้นผมเราเปลี่ยนไปกี่รอบ นี่คือเป็นตัวเดียวกันหรือเปล่า ร่วงไปเท่าไหร่ เปลี่ยน ไปเท่าไหร่ นี่!เพราะเราคิดว่าตรงนี้แหละ ที่ทาให้เราเข้าใจว่าเป็นตัวเรา เป็นคนเดิม หน้าตาเหมือนเดิมไหม เหลือเค้าหน่อยหนึ่ง บางคนไม่ชอบ เปลี่ยนหมดเลย ตอนส่องกระจก...ตกใจ ตัวเราหรือเปล่านี่นะ จาไม่ได้ จาตัวเองไม่ได้
นี่! คือสังเกตดูว่า แล้วอะไรเป็นคนเดิม ความรู้สึกความเข้าใจการยึด...ตรงนั้น อุปนิสัยหรือความ เชื่อหรือปัญญา เปลี่ยนหน้า...แต่ไม่เปลี่ยนใจ เปลี่ยนไปคือรูปเปลี่ยน แต่จิตไม่ได้เปลี่ยน ก็ยังเหมือนเดิม ก็กลายเป็นคนเหมือนเดิม เป็นอุปนิสัยเหมือนเดิม คิดเหมือนเดิม ขึ้หงุดหงิดก็ยังเป็นเหมือนเดิม ถึง เปลี่ยนอย่างไรก็เหมือนเดิม...เห็นไหม เราเปลี่ยนได้ แต่ที่สาคัญคือการเปลี่ยนจิตของเรา ตรงนี้แหละ ความไม่เที่ยง ตรงนี้ที่เธอบอกว่าแล้วยึดมาเป็นของเราตั้งแต่เกิด อันนี้เขาเปรียบเทียบนะ เขาพูดให้ฟังว่า แม้แต่รูปเรากายนี่นะก็ยังเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย เปลี่ยนไปตามกาลเวลา เขาเปลี่ยนไป แล้วคนเดิมอยู่ ตรงไหน อ้าว!ไม่มี
ทีนี้การที่เราเห็นถึงความไม่มีตัวตน แต่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของรูป ถึงเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป แมแ้ ตฟ่ นั ถงึ เวลาเขากจ็ ะลาเราใชไ่ หม เออ่ !ขนึ้ มาแลว้ กเ็ ดยี๋ วถงึ เวลาเขากจ็ ะลาเราไป ผวิ กเ็ ปลยี่ นไป เกดิ ดบั


































































































   192   193   194   195   196