Page 212 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 212
732
ในตัว เป็นการปฏิบัติเพื่อประคองจิต ให้ความเป็นกุศลนั้นมีกาลังมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วพอเราระลึกถึงเมื่อ ไหร่ก็เจอแต่...ระลึกเมื่อไหร่ก็เจอแต่ความดี ความรู้สึกดี เจตนาดี สภาพจิตที่ดี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสาคัญสิ่งหนึ่ง ที่อาจารย์มักถามเสมอว่า เวลาปฏิบัติจิตผ่องใสขึ้น รู้สึก ดีไหม ดีไหม ดีอย่างไร จริง ๆ แล้ว โยคีรู้ว่าเจอสภาพอย่างนั้น โยคีจะรู้สึกดี...แน่นอน ว่าจิตมีความสงบ มคี วามตงั้ มนั่ มคี วามผอ่ งใส มคี วามเบกิ บาน แตท่ ถี่ ามวา่ ดไี หม แสดงวา่ มมี มุ มองอะไรทเี่ ราขา้ มไป พจิ ารณา จุดที่ต้องพิจารณา ที่ใส่ใจว่าเขาดีได้อย่างไร จิตที่ดีแล้วใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง จิตที่ดีแล้วมีค่ากับชีวิตเรา แค่ไหน จิตที่ดีแล้ว ควรค่าแก่การรักษา ประคองจิตให้ดีมากขึ้นไหม
หรอื วา่ ปฏบิ ตั ธิ รรมทาจติ ใหด้ ขี นึ้ แลว้ รวู้ า่ ดี แตเ่ หมอื นกบั ไมร่ คู้ ณุ คา่ เทา่ ทคี่ วร จงึ ปลอ่ ยปละละเลย ไม่รักษาจิตดี หรือไม่รักษาความดีของตนเอง ไม่รักษาความดีที่มีอยู่ แล้วพัฒนาความดีที่ดีแล้ว ให้ดียิ่ง ขึ้นไป กลายเป็นว่าเดี๋ยวขึ้นลงขึ้นลง เขาเรียกเดี๋ยวตกเดี๋ยวขึ้น ๆ พอตกบ่อย ๆ ลงบ่อย ๆ ก็จะรู้สึกว่า ทาไมเราไม่ก้าวหน้าสักทีหนึ่ง
ธรรมดา...อาจารย์จึงพูดแบบขา ๆ ก้าวหน้า ก้าวทีละก้าว ทีละก้าว แต่เวลาลง มันเหมือนลงลิฟท์ เวลาตกก็คือฮวบ กระทบปุ๊บ หมดแรงไปเลย แต่เวลาจะพัฒนา ขึ้นทีละนิด มันก็เลยช้า ทีละก้าวทีละนิด พอทีละนิด ทีละนิดกว่าจะถึงจุดเดิม ทาไมนานจัง ก็เลยรู้สึกว่า เอ่อ!นาน ทีนี้การยกจิตเรา แทนที่จะก้าว ทีละก้าว ต้องชานาญขึ้น ยิ่งลงบ่อยยิ่งขึ้นเร็ว ยิ่งลงบ่อยยิ่งขึ้น...เราต้องชานาญขึ้น ทางเราขึ้นบ่อย ใช่ไหม บันไดขั้นเดิม มันต้องจาให้แม่น เวลาตกฮวบลงมาปุ๊บ รีบกระโดดขึ้นมา วิ่ง ๆ ๆ ขึ้นไป อันนี้ตกปุ๊บ จม อยู่ตรงนั้น กว่าจะก้าวเท้า หาบันได...เจอ ทาอย่างไรน้า จิตถึงจะไปที่เดิม จะไปสู่ความว่างนั้นได้อีก
สงั เกตไหมวา่ จติ เราจะเบาและยกไดง้ า่ ย จติ เราจะเบาและยกไดง้ า่ ย ดว้ ยความรสู้ กึ ละความเปน็ เรา เสีย ดับความรู้สึกว่าเป็นเรา ทาจิตให้กว้าง...เหมือนอะไร ทาจิตให้กว้าง ๆ นะ ทาจิตให้กว้างปุ๊บ เขาก็จะ เบาขึ้นโล่งขึ้น แค่ไปดูเขา ไปดูจิตที่ว่างที่เบาให้กว้างขึ้น ๆ ลมพัดเบา ๆ เขาก็ลอยขึ้นแล้ว มีกระแสความดี เข้ามาเกื้อหนุนนิดหนึ่ง นึกถึงความดีปุ๊บ...เหมือนลมที่เข้ามาพัด ให้ความเย็น ความเบิกบาน ความผ่องใส ตัดอารมณ์นั้น...อกุศลไป ดับความรู้สึกว่าเป็นเรา ไม่เป็นไรยกจิตใหม่ อันนี้จะขึ้นเร็วขึ้น
พอจติ เบาขนึ้ เพมิ่ ความนงิ่ มเี จตนาทจี่ ะดจู ติ ทดี่ แี ลว้ ดจู ติ ทดี่ แี ลว้ และขา้ มอารมณน์ นั้ ไปรอู้ ารมณ์ ปจั จบุ นั ทเี่ กดิ ขนึ้ รถู้ งึ อาการพระไตรลกั ษณต์ อ่ กลบั มาอยกู่ บั ความจรงิ กลบั มาอย.ู่ ..สจั ธรรมความจรงิ คอื ความเป็นอนัตตา ความรู้สึกที่ไม่มีตัวตน ไม่มีเรา มีความว่างเปล่า สิ่งหนึ่งที่บอกว่า ความเป็นอนัตตา จิต ที่ว่างที่กว้างไม่มีขอบเขต กว้างกว่าธรรมชาติ สังเกต อาจารย์เคยบอกว่า ธรรมชาติ อากาศที่กว้างเหมือน แผ่นดิน ต้นไม้ก็ปฏิเสธต้นไม้ ต้นไม้ปฏิเสธคน คนไหนปฏิเสธอาคารหลังไหน
ก็เหมือนกับจิตที่ว่าง กว้าง พอกว้างปุ๊บ จิตเราว่าง กว้างเป็นธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ลองดูว่าอารมณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาก็เกิดในที่ว่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างอิสระ เป็นสิทธิ์ของอารมณ์ อันนั้น ที่เกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยของเขา เราให้เขาเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เป็นคนละส่วน แล้วเราก็ว่างไม่มี