Page 214 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 214
734
อารมณ์...เข้าใจในลักษณะไหน เราเข้าใจถึงเหตุปัจจัย ของชีวิตของอารมณ์ที่เกิดขึ้น เขาเรียกกฎแห่งกรรม หรือเหตุปัจจัย อะไรเป็นเหตุเป็นปัจจัย ทาให้อารมณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมา ถ้าเราพิจารณาจะทาให้เข้าใจมากขึ้น จริง ๆ แล้ว ควรพิจารณาควบคู่กันไป ไม่ใช่แค่รู้ดับ แล้วจะใสขึ้น เบาขึ้น โล่งขึ้นอย่างเดียว แต่ว่าไม่จาเป็น ต้องพิจารณา ในขณะอยู่ ณ ขณะที่กาลังเกาะติดอาการเกิดดับ
เพราะการพจิ ารณาแบบนน้ั เปน็ การพจิ ารณาอารมณบ์ ญั ญตั ิเรอื่ งราวของอารมณบ์ ญั ญตั ิเหตปุ จั จยั เหตุผลท่ีเป็นบัญญัติอยู่ แต่การเจาะสภาวะ การพิจารณาอาการเกิดดับ ของรูปนามที่เป็นปรมัตถ์ ตรงนี้ เขาบอกไม่ให้คิด เพราะถ้าคิดเขาจะตัด เวลาเดินไปดี ๆ คิดปุ๊บมันก็ตัด เดินได้...จะเดินไปข้างหน้า เขาจะ ถกู ตดั เขาจะหยดุ อยู่ แตถ่ า้ เรากา หนดรอู้ าการเกดิ ดบั ตรงทตี่ อ้ งใสใ่ จกค็ อื วา่ ไมค่ ดิ แตพ่ จิ ารณา แตส่ งั เกต อาการเกิดดับ ถึงอาการเกิดดับที่เปลี่ยนไป หรือความแตกต่างของอาการเกิดดับ ที่กาลังปรากฏอยู่นั้น ว่า เปลี่ยนไปในลักษณะอย่างไร
และการสงั เกตอาการเกดิ ดบั นนี่ ะ วา่ เปลยี่ นไปอยา่ งไร การกา หนดทดี่ ี คอื อยทู่ เี่ ดยี วกนั แลว้ สงั เกต ไปด้วยกัน เหมือนเรานั่งในรถ เรานั่งอยู่ในรถ เราขับรถ นั่งอยู่ในรถ เราก็สังเกตว่า รถเราวิ่งเร็วแค่ไหน ไม่ ต้องไปลงยืนข้างถนน แล้วก็ปล่อยรถวิ่งเร็ว ๆ แล้วเราก็มอง ไม่ต้องอย่างนั้น คือเราอยู่ในรถ เราก็รู้ได้รู้สึก ได้ เขาเรว็ แคไ่ หน เพราะอะไร อาการทเี่ กดิ ขนึ้ ขา้ ง ๆ จะเปน็ ตวั บอก อาการทเี่ กดิ ขนึ้ อารมณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ตน้ ไม้ เอย รถข้าง ๆ เรา จะเห็นว่าเขาช้าหรือเร็ว อันนี้คือจะรู้ว่า รถที่เราขับเร็วแค่ไหน อันนี้อย่างหนึ่ง
แตถ่ า้ เราขบั รถบอ่ ย ๆ เรารแู้ ลว้ ไมต่ อ้ งไปดดู า้ นขา้ ง ดแู คข่ า้ งหนา้ อะไร คา วา่ อารมณข์ า้ ง ๆ รวมทงั้ ทาง...เส้นที่อยู่ในถนน ที่เราวิ่งผ่านไป ที่แว็บ ๆ ๆ ๆ เร็ว ก็บอกได้ว่ารถเร็ว ถึงแม้รถเราอยู่นิ่ง ๆ เหมือนเรา อยู่ในรถ นั่งนิ่งอยู่ในรถ อันนี้คือการเกาะติดสภาวะ ก็จะบอกได้ว่าเขาเกิดดับเร็วแค่ไหน บางทีเรา...เวลา ปฏบิ ตั ิ พอบอกตามรอู้ าการเกดิ ดบั พอตามรวู้ า่ เขาเรว็ แคไ่ หน พออาการเกดิ ดบั ไป ตอ้ งถอยออกมาดหู า่ ง ๆ ดูสิว่าเขาเร็วแค่ไหน
สังเกตไหม พอถอยออกมาดู เขาก็แว็บ ๆ ๆ ไป ทาไมถึงเขาเรื่อย ๆ เพราะตัวนี้ กาลังเข้าอยู่ตรง ตวั สตทิ เี่ ขา้ ไป ไปร.ู้ ..อาการ เพราะฉะนนั้ การทอี่ ยตู่ รงนี้ รสู้ กึ ตรงนนั้ ทนั ที เหมอื นทบี่ อกวา่ เกดิ ตรงไหนกด็ บั ตรงนนั้ จติ กบั อาการอยทู่ เี่ ดยี วกนั นคี่ อื อยทู่ เี่ ดยี วกนั กส็ งั เกตรไู้ ดว้ า่ เขามคี วามแตกตา่ งกนั อยา่ งไร จากครงั้ กอ่นอาการเกดิดบั...เปน็ตอนทเี่รมิ่ขบัชา้ๆเปน็อยา่งไรพอเรง่เรว็ขนึ้อาการความเรว็เปน็อยา่งไร...อาการ เกดิ ดบั ทเี่ กดิ ขนึ้ จงึ บอกวา่ ใหเ้ กาะตดิ กบั อาการ...อยทู่ เี่ ดยี ว กจ็ ะบอกไดว้ า่ เขาเรว็ ขนึ้ หรอื ชา้ ลง ไมต่ อ้ งกลวั
ทีนี้บางขณะ...โยคี บางครั้งรู้สึกว่าพอเกาะปุ๊บเขาดับเลย พอเกาะปุ๊บเขาดับเลย หายไปเลย พอ อาจารย์บอก...ให้เขาดับเร็วแค่ไหน ต่อจากนั้นไม่กล้าเกาะแล้ว กลัวเขาดับ กลัวว่าพอเกาะปุ๊บเขาหาย จบ แล้วนี่ว่างไปแล้ว ไม่เห็นอย่างที่อาจารย์บอกเลย จริง ๆ แล้ว นั่นถูกแล้ว จากที่เขาเกิดดับแบบไปเรื่อย ๆ พอไปเกาะปุ๊บ ดับปุ๊บเลย เด็ดขาดเลย นาน ๆ เกิดทีหนึ่ง แล้วก็วุบอีก นั่นคือถูกแล้ว แสดงว่าเขาเกิดดับ แบบอาการเกิดดับเปลี่ยนไปแล้ว ช้า ๆ เกิดนาน ๆ เกิดที่หนึ่งแล้วก็ดับไป ตรงนั้นไม่ผิด ให้สนใจในขณะ ต่อไปเรื่อย ๆ นั่นคือการเจาะสภาวะ การปฏิบัติ...ทาแบบนี้ จะทาให้สภาวะเราก้าวหน้ายิ่งขึ้น