Page 225 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 225
745
ความสงบ อันนี้ยกตัวอย่าง ขณะที่มีเวทนาเกิดขึ้น เป็นก้อนเป็นแท่งขึ้นมา จิตรู้สึกมีความสงบ สงบนิ่งอยู่
พอใส่ใจสังเกตอาการ กาหนดรู้อาการเปลี่ยนแปลงของเวทนาสักพัก เห็นเวทนาเปลี่ยนไป ๆ จน เวทนาหายไป พอเวทนาหายไป สภาพจิตเปลี่ยนเป็นอย่างไร ยังสงบเหมือนเดิม ยังเท่าเดิมหรือเปลี่ยนไป เปลี่ยนไปอย่างไร เปลี่ยนเป็น...จากที่สงบนิ่ง พอเวทนาหายไป เปลี่ยนจากที่สงบนิ่ง เป็นความสงบที่รู้สึก เบาขึ้นโล่งขึ้น เป็นความรู้สึกโล่งขึ้นเบาขึ้นมา ถามว่าสภาพจิตเปลี่ยนหรือยัง นั่นคือการเปลี่ยนแปลงสภาพ จิต...จิตที่เปลี่ยนไป
ทีนี้พอเป็นแบบนี้ รู้อย่างไร การที่เรารู้สภาพจิตต่อ ตรงที่ไม่มีอาการอย่างอื่นเกิดขึ้น ไม่มีเวทนา เกิดขึ้น เราจะรู้อะไร รู้สภาพจิตที่โล่งที่เบาแล้วนี่แหละ รู้อย่างไร เข้าไปรู้ เข้าไปกาหนดรู้จิตที่โล่งเบา หรือ ความรู้สึกที่โล่งเบาอันนั้น ในความรู้สึกที่โล่งเบา ที่สงบและโล่งเบา พอเข้าไปกาหนดรู้ความรู้สึกที่โล่งเบา แล้วจิตที่โล่งเบาเปลี่ยนอย่างไร ความรู้สึกที่โล่งเบานั้น เปลี่ยนไปอย่างไร
สังเกตนะ ความรู้สึกที่โล่งเบา ไม่ใช่แค่บรรยากาศข้างหน้าที่เบา ๆ ทาไมถึงเน้นถึงความรู้สึกที่ โล่งเบา เพราะบางครั้งพอเวทนาหายไปแล้ว ความรู้สึกที่โล่งเบาขึ้น ข้างหน้าก็ว่างก็เบาเหมือนกัน ข้างหน้าก็ ว่างเบาเหมือนกัน แต่ในขณะเดียวกัน เป็นข้างหน้ากลาย...เปลี่ยนเป็นแค่บรรยากาศที่เบา ๆ แต่ความรู้สึก จริง ๆ ที่เบา อยู่ตรงไหน บางครั้ง ทาให้เราไปดูข้างหน้า แล้วก็ไปรู้ในความเบาข้างหน้า แล้วไม่มีอะไร เปลี่ยนเลย เพราะเป็นความว่าง ๆ เบา ๆ ความว่าง ๆ เบา ๆ ข้างหน้ากลายเป็นว่า เป็นความว่างเบาที่อาการ หายไป ดูไม่ถูก...จิตที่เบาของตัวเอง ไม่ถูกความรู้สึกที่เบา ๆ จริง ๆ
เพราะฉะนั้น สารวจว่าความรู้สึกที่เบา ๆ จริง ๆ อยู่บริเวณไหน บางครั้งเราก็ลืมว่า เราเคยขยาย ความรสู้ กึ ใหก้ วา้ ง ใหเ้ บา เหมอื นอยขู่ า้ งนอกหมดเลย แตล่ มื ตรงบรเิ วณหทยวตั ถุ หรอื ทรี่ ปู อนั น.ี้ ..ลมื เหมอื น เขาเรียกว่าทิ้งรูปไป พอทิ้งรูปไป พอกลับมาที่รูป ก็ทิ้งความรู้สึกไป เคยไหม...พอความรู้สึกมันอยู่ข้างนอก ก็โล่ง ๆ พอทิ้งความโล่ง ไม่ดูความโล่งข้างนอก พอมาดูที่รูปก็หนัก กลายเป็นว่า ความรู้สึกเราเหมือนกับ จิตที่ว่าง ความรู้สึกสภาพจิตโล่ง ๆ ดีแล้ว ไม่เอามาไว้ที่ตัวด้วย ไม่ให้เข้ามาที่ตัวด้วย เวลาความรู้สึกว่าง จิตว่าง ขณะที่ข้างนอกว่างเบา ข้างในก็ควรเป็นแบบเดียวกัน
ถ้าเราทิ้งรูป อันนี้พูดถึงว่าทิ้งรูป แล้วไปอยู่ที่ความเบาอย่างเดียว พอไม่สนใจความเบา ความเบา หายไป พอกลับจะไปหาความเบาใหม่ หาไม่เจอ เพราะอะไร กลับมาที่รูปแล้วหนักปุ๊บนี่นะ พอมีความหนัก เหมือนกับคล้าย ๆ พอมาที่รูปเมื่อไหร่ ก็จะมีความเป็นเรา มีตัวตนเกิดขึ้น มีความเป็นเราเกิดขึ้น มายึด กลายเป็น...มาอยู่กับบัญญัติ มามีความเป็นเราอีก พอยกจิตขึ้นสู่ความว่าง บางครั้งหาไม่เจอ
แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตาม ที่ความรู้สึกเราว่างแล้ว ให้มาอยู่ที่ตัวด้วย ที่ตัวก็ว่าง ที่รูปก็ว่าง รู้สึกทั้งภายใน และภายนอก เขารยี กเปน็ ความรสู้ กึ ทงั้ ภายในและภายนอก พอไปดขู า้ งนอกกว็ า่ ง พอไมไ่ ดด้ ขู า้ งนอก กลบั มาดูที่ตัวก็ว่างอีก ความว่างยังมีอยู่ ความเบายังมีอยู่ แล้วเวลาเพิ่มพลัง เวลายกจิตขึ้นสู่ความว่าง ก็แค่ ทา ความรสู้ กึ ทวี่ า่ งทตี่ วั ใหก้ วา้ งออก เขากว็ า่ งมากขนึ้ แลว้ จะทา ไหย้ กจติ ไดง้ า่ ยขนึ้ จะทา ใหย้ กจติ ไดง้ า่ ยขนึ้