Page 226 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 226
746
เพราะฉะนนั้ การทดี่ สู ภาพจติ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ สภาพจติ ตรงนนี้ ี่ คอื ผลของการกระทา ผลของการ ปฏิบัติของเราโดยตรง ไม่ว่าจะไม่สนใจ ไม่ว่าจะคิดว่าปล่อยวาง จะปล่อยวาง หรือรู้อาการพระไตรลักษณ์ ที่ดับไป ถ้าปล่อยวาง ก็ต้องมีผลต่อจิตเหมือนกัน สภาพจิตที่เกิดขึ้นนี้เป็นอย่างไร ปล่อยวางแล้วจิตใจเป็น อย่างไร มันรู้สึกสงบ ปล่อยวางแล้วรู้สึกสบาย ๆ รู้สึกเบา ๆ รู้สึกโล่ง ๆ รู้สึกเฉย ๆ อันนั้นเป็นจิตไหม ก็ เป็นสภาพจิตอยู่ดี
ปล่อยวางแล้วไม่ทุกข์กับอารมณ์ที่เกิดขึ้น พอไม่ทุกข์ จิตที่ไม่ทุกข์เป็นอย่างไร มันเฉย ๆ เฉย ๆ ก็เป็นสภาพจิต สภาพจิตที่เป็นอุเบกขา เฉยแบบไหน เฉย...จิตที่เฉย ๆ เป็นเฉยที่สงบ เป็นเฉยที่ผ่องใส เป็นเฉยที่สะอาด หรือว่าเป็นแค่รู้สึกเฉย ๆ อันนี้คืออย่างหนึ่ง นี่คือความละเอียดของจิต การดูสภาพจิต ตรงนี้ การที่เราดูสภาพจิต พอปฏิบัติไปเรื่อย ๆ สภาพจิตตรงนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่บัลลังก์ต่อบัลลังก์ แล้วผ่าน ไปอย่างเดียว เพราะสภาพจิตตรงนี้คือผลของการปฏิบัติ ผลของการเจริญสติ สมาธิ และปัญญา
ถ้าปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง อย่างไร...ถึงสนใจไม่สนใจเขาก็ยังมีผล มีผลอย่างไร จิตจะมีความตั้งมั่น มีความสงบอยู่ ถ้าเราเคยปฏิบัติจนจิตรู้สึกว่า ก็เคยเห็นความสงบ เข้าถึงความสงบ เข้าถึงความตั้งมั่น เข้าถึงความว่างแล้วนี่นะ พอกลับมาดูเมื่อไหร่ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเข้าสู่ความสงบ ความว่าง ความตั้งมั่นได้ ง่ายขึ้น นั่นก็คือการสั่งสมพลัง การสั่งสมพลังสมาธิสติของเรา หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่ง เราเรียกว่าสั่งสม บารมี สั่งสมบารมี กาลังของสติ สมาธิ ปัญญา ที่ปฏิบัติมา เขาเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้นบางคนพอปฏิบัติไป ลืมไป ไม่ได้เรียกว่าลืม เขาเรียกว่าไม่ได้สนใจ ไม่ได้ใส่ใจ เข้า คอร์สปฏิบัติธรรมมากเท่าไหร่ ไม่ได้มีเจตนาที่จะรู้อาการพระไตรลักษณ์ อาการเกิดดับอย่างต่อเนื่องเท่า ไหร่หรอก เพียงแต่สนใจจิตตัวเองเป็นระยะ ๆ พอมีอะไรเกิดขึ้นมา...รู้ ทากิจกรรมในชีวิตประจาวัน การ งานของตนไปเรื่อย ๆ แต่จิตที่ดี จิตที่ดีที่เกิดจากปัญญา สติที่ดี ที่รู้ถึงจิตที่สงบและดีอย่างไร เหมือนกับ จิตจะคอยทบทวน คอยสังเกตอยู่เรื่อย ๆ ถึงจะเผลอไป
แตพ่ อมาปฏบิ ตั ิ พอเรมิ่ ตงั้ ใจปฏบิ ตั ิ แลว้ ถา้ รหู้ ลกั ในการปฏบิ ตั ดิ ว้ ย วา่ จะเรมิ่ ตน้ อยา่ งไร เรมิ่ ตน้ ดว้ ย การดูลมหายใจ เริ่มต้นด้วยการดูพองยุบ เริ่มต้นด้วยการยกจิต ทาจิตให้ว่าง อย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม พอ รู้จักเริ่มต้น พอรู้จักจุดเริ่มต้น ตั้งจิตที่จะปฏิบัติ กาลังความดี หรือสมาธิที่เคยปฏิบัติ ที่เคยสั่งสมมา เขาก็ จะเพิ่มขึ้นได้เร็ว หรือเข้าถึงความสงบอันนั้นได้เร็ว อาจจะใช้เวลาสักชั่วโมงสองชั่วโมง แต่ก็เข้าถึงได้เร็วขึ้น
เพราะฉะนั้นตรงนี้ เป็นตัวบ่งบอกว่า การสั่งสม การปฏิบัติธรรม การสั่งสมสมาธิ สติ การเจริญสติ สมาธิปัญญาของเรา ไม่ใช่แค่ส่งผลแค่วันนี้ แค่บัลลังก์ต่อบัลลังก์เท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นแต่ละบัลลังก์ ที่ เราสนใจสภาวธรรมที่เปลี่ยนไป สภาพจิตก็จะเปลี่ยนไป บางทีโยคีจะเห็นว่า ในบัลลังก์หนึ่ง ๆ นี่นะ เวลา กาหนดรู้ ตอนกาหนดรู้อาการเกิดดับของเสียง เห็นอาการเกิดดับของเสียงวาบ ๆ ๆ ๆ จิตตื่นตัวมากเลย
พออาการเกดิ ดบั ของเสยี งหายไป ไปรอู้ าการเกดิ ดบั ของการเดนิ จติ กลบั รสู้ กึ นงิ่ ขนึ้ อาการเกดิ ดบั ก็ เป็นจังหวะเป็นขณะ ๆ จิตรู้สึกนิ่งขึ้น ๆ สงบขึ้น นั่นก็คือสภาพจิตเขาเปลี่ยนไป เปลี่ยนตามอาการ เปลี่ยน