Page 74 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 74
594
ที่เบา ๆ แล้วค่อย ๆ ยาวขึ้น ๆ ๆ เมื่อก่อนลมหายใจเริ่มจากยาว ๆ ยาว ๆ หนัก ๆ แล้วก็เคลื่อนไป ๆ ตอนนี้เปลี่ยนใหม่ พอเริ่มลมหายใจ พอจิตว่างปื๊บ เหมือนกับไม่มีลมหายใจ แต่สักพักเริ่มมีลมหายใจ ปรากฏขึ้นมา จากที่เคยยาว ๆ ตอนนี้เป็นเบา ๆ เริ่มจากเบา ๆ ๆ ๆ แล้วค่อย ๆ ชัดขึ้น ๆ อันนี้ก็คือเห็น ความเปลี่ยนแปลง ความต่างของลมหายใจเข้าออก แต่พอกาหนดไปสักพัก อาการของลมหายใจเปลี่ยน จากค่อย ๆ ชัดขึ้น ยาวขึ้น ๆ สักพักหนึ่งเขาหยุดนิดหนึ่ง สักระยะหนึ่ง หมายถึงอาจจะ ๕ นาที ๑๐ นาที ๒๐ นาทีก็แล้วแต่ จากนั้นก็เริ่มเบาบางลงอีก แล้วหายใจเริ่มช้าลง ๆ เบาลง บางลง น้อยลง บางลง ๆ แล้ว ก็หายไป ว่างไป ลมหายใจหายไปเลย
นี่คือการสังเกตถึงความต่าง การเล่าสภาวะก็เช่นเดียวกัน เราก็จะได้รู้ว่าลมหายใจ ถ้าพูดถึงลม หายใจเราก็จะบอกได้ว่า ตอนนี้อาการของลมหายใจไม่เหมือนเดิมแล้ว เขาเปลี่ยนเป็นแบบนี้ ๆ เล่าแบบนี้ ไ ด เ้ ล ย เ ล า่ แ บ บ ต า่ ง ไ ป จ ดุ ท ตี ่ า่ ง ไ ป ท นี ถี ้ า้ เ ป น็ ค ว า ม ค ดิ ล ม ห า ย ใ จ ม กั จ ะ ไ ม ค่ อ่ ย ม ปี ญั ห า เ พ ร า ะ ว า่ เ ป น็ อ า ร ม ณ ์ ปกติ ถา้ เกดิ ถา้ มขี นึ้ เรากเ็ ลา่ แบบนี้ อารมณอ์ นื่ กเ็ ชน่ เดยี วกนั สมมตวิ า่ มคี วามคดิ เกดิ ขนึ้ มา เมอื่ วานนี้ บลั ลงั ก์ เมื่อวาน หรือบัลลังก์ตอนกลางวันนั่งแล้วมีแต่ความสงบ มีแต่ความเบา มีความสงบ มีความสุข สภาพจิต รู้สึกดีมาก มีแต่ความสุข ความเบา ความสงบ ยิ่งดูเข้าไปในความเบา ความสงบ ยิ่งสงบขึ้น กว้างขึ้น สบาย ขึ้น นั้นคือการเล่าถึงการเข้าไปรู้สภาพจิต...ดูจิต
แต่สักพักกลายเป็นมีความคิดแทรกเข้ามา พอสบายขึ้นแล้ว...ลืม ทีนี้กาลังดูสภาพจิตเพลิน ๆ มี ความคิดค่อย ๆ แทรกเข้ามา ๆ พอจะรู้ว่าคิด เขาดับไปแล้ว อ๋อ!เริ่มรู้สึกว่า อ้าว!มีความคิด ความคิดเขา หายไปแล้ว ทีนี้พอดูสภาพจิตใหม่ ยิ่งว่าง ๆ ทีนี้ว่างเงียบนะ ว่างเงียบ ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีความสงบ เงียบไม่มีการเปลี่ยนแปลง สักพักความคิดมาใหม่ ความคิดเกิดขึ้นมาคราวนี้ รู้ทันตอนไหน เหมือนเราเริ่ม จะรู้แล้ว หรือว่าความคิด เผลอคิดไปสักระยะพอรู้ว่าคิดนะ ความคิดค่อย ๆ ดับลง ค่อย ๆ จางไป ๆ หรือ รู้ว่าคิดเขาหยุดนิดหนึ่ง แล้วความคิดก็ค่อย ๆ จางไป ๆ พอความคิดใหม่ขึ้นมา ไม่ทันตอนเกิด ไม่รู้ว่ามา ตอนไหน แต่รู้ว่าเริ่มคิด เริ่มคิดนิดหนึ่งแล้ว เริ่มคิด...เห็นว่าความคิดเกิดขึ้นมา เห็นเร็วกว่าเดิม
สมมติว่าเขาเกิดขึ้นมา ๓ นาทีถึงได้รู้ แล้วก็เห็นจางไปดับไป สักพักก็เกิดขึ้นใหม่ ๒ นาทีรู้แล้ว เริ่ม ๑ นาทีรู้แล้ว เขาเรียกว่าความคิด รู้ทันความคิดมากขึ้น รู้เร็วขึ้น แล้วความคิดดับ จากที่ค่อย ๆ เลือน ค่อย ๆ จาง สังเกตว่าความคิดที่เกิดใหม่นี่นะ ยังค่อย ๆ เลือน ค่อย ๆ จางหาย เหมือนเดิมหรือดับเร็วกว่า เดมิ ใหส้ งั เกตความตา่ งแบบนี้ ตรงนเี้ ปน็ ความตา่ งของอาการเกดิ ดบั การเหน็ ความแตกตา่ งของอาการเกดิ ดับตรงนี้ ความคิดที่ดับไปดับเร็วขึ้นนี่นะ
อีกส่วนหนึ่งที่ต้องสังเกตก็คือว่า พอเห็นในลักษณะอย่างนั้น สังเกตไหมสติเราดีขึ้นไหม จิตตั้งมั่น ขนึ้ ไหม จติ ตนื่ ตวั ขนึ้ ไหม นนั่ คอื จดุ ทตี่ อ้ งสงั เกต เพราะฉะนนั้ เมอื่ มเี จตนาทจี่ ะรใู้ หท้ นั ความคดิ มากขนึ้ ตอ่ ไปพอเริ่มเหมือนจะคิด เหมือนเป็นจุดนิดหนึ่งทาท่าจะคิดก็รู้แล้ว รู้สึกผุดขึ้นมานิดหนึ่ง ทาท่าจะคิดก็รู้ทัน ทีนี้สังเกตว่าผุดขึ้นมานิดหนึ่ง...รู้ทัน ความคิดดับอย่างไร พอรู้ทันแล้วผุดขึ้นมาแล้วค้างอยู่ หรือผุดขึ้นมา แล้วแว็บดับ ผุดขึ้นมาแล้วแว็บดับ ตรงนี้คือการกาหนดรู้อาการเกิดดับของความคิด รู้ว่าความคิดเกิดขึ้น