Page 76 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 76
596
อาการที่แว็บหาย ๆ ๆ มากขึ้น ในแว็บเดียวอาการของเสียง ในแว็บเดียวนั้นมีอาการกระจายหรือพุ่ง ยาวไป ๆ หรือแปล๊บพุ่งออกไปข้างนอก หรือว่าแปล๊บพุ่งเข้ามาหาตัว นี่คือการสังเกตอาการเกิดดับของ เสียงว่าเปลี่ยนไปอย่างไร
พอเสยี งหมดชดุ ไป...จติ ใจรสู้ กึ อาการของเสยี งหมดไปสภาพจติ รสู้ กึ จากทตี่ งั้ มนั่ ทสี่ วา่ งอยเู่ ปลยี่ น เปน็ อยา่ งไร เปลยี่ นเปน็ ความหนกั แนน่ มนั่ คง มแี ตค่ วามสงบหนกั แนน่ มนั่ คงเกดิ ขนึ้ เมอื่ รสู้ กึ สงบหนกั แนน่ มั่นคงเกิดขึ้น พอเสียงดังขึ้นมารอบใหม่ พอไปกาหนดเสียงต่อไป อาการของเสียง อาการเกิดดับของเสียง นั้นต่างจากเดิมอย่างไร อาการของเสียงต่างจากเดิมอย่างไร เมื่อกี้นี้เกิดดับแว็บไป ๆ จากกระจายแล้วแว็บ หาย ๆ พอจิตตั้งมั่นขึ้น อาการเกิดดับของเสียงเปลี่ยนไปอย่างไร นั่นคือจุดที่เราต้องสังเกต ต้องใส่ใจนะ ให้โยคีพึงใส่ใจสังเกตแบบนี้ เพราะฉะนั้นนี่นะ เราจะเห็นทั้งเหตุและผลในตัว เหตุคือการมีเจตนาเข้าไป กา หนดรู้ อารมณท์ กี่ า ลงั ปรากฏแบบนี้ ดว้ ยความรสู้ กึ ทมี่ นั่ คง ดว้ ยความรสู้ กึ ทผี่ อ่ งใส อาการนเี้ กดิ ดบั แบบ นี้ ๆ พอจิตเปลี่ยนเป็นความหนักแน่น เป็นความสงบตั้งมั่นมากกว่าเดิม อาการเกิดดับของอารมณ์นั้นต่าง จากเดิมแบบนี้ ๆ นั่นคือจุดที่ต้องสังเกต
เพราะนั่นจะเห็นถึงลักษณะของสภาวะ ที่เรียกว่าสภาวญาณ อาการเปลี่ยนแปลงการเกิดดับของ อารมณ์ที่เกิดขึ้น สภาวญาณคือเราเห็นขณะหนึ่ง หนึ่งขณะ สองขณะที่หนึ่ง ขณะที่สอง ขณะที่สาม หรือ เห็นทั้งขณะที่หนึ่งกับขณะที่สอง เห็นเกิดขึ้นตั้งอยู่ เห็นเกิดขึ้นตั้งอยู่ไม่เห็นการดับ เขาเรียกเห็นสองขณะ แตเ่ หน็ เกดิ ขนึ้ ตงั้ อยแู่ ลว้ กด็ บั ไป วบื๊ ขนึ้ มาแลว้ กด็ บั แวบ็ ไป เหน็ ทงั้ การเกดิ การตงั้ อยู่ เหน็ อาการเกดิ ดบั ของ อารมณ์ที่เกิดขึ้น และการเห็นอาการเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปของอารมณ์ ตรงนี้แหละ ที่จะเป็นตัวบอกถึงกาลัง ของสติสมาธิปัญญาของเรา
และที่สาคัญก็คือว่า เราจะรู้สึกได้เลยทันทีนะ ได้เลยทันทีว่า ขณะที่ตามรู้อาการเหล่านี้ไปเรื่อย ๆ นนี่ ะ สภาพจติ เปลยี่ นไปอยา่ งไร สภาพจติ เปลยี่ นเปน็ สงบขนึ้ เปลยี่ นเปน็ ใสขนึ้ เปลยี่ นเปน็ สวา่ งขนึ้ เปลยี่ น เป็นกว้างขึ้น สภาพจิตกลับสงบเงียบ แคบลง เล็กลง โฟกัสแค่จุดเดียว มีความตั้งมั่น แต่รู้แค่จุดเดียวแค่ อารมณ์เดียว หรือว่ารู้แล้วจิตมันกว้างไป ๆ ยิ่งเบายิ่งสว่างยิ่งกว้างขึ้น เห็นอาการเกิดดับยิ่งกว้างขึ้น อาการ เกิดดับที่อยู่ข้างหน้ายิ่งชัดเจนมากขึ้น คาว่าชัดเจนมากขึ้น...เล่าแบบนี้อย่างหนึ่ง
แต่การที่ถ้าบอกได้ว่า อาการเกิดดับที่อยู่ข้างหน้าชัดเจนมากขึ้น นั่นคือบอกว่าอาการเกิดดับที่อยู่ ข้างหน้าเกิดดับแบบเร็ว ๆ ชัดเจนมากเลย ชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม เด็ดขาดมากขึ้น อันนั้นจะเป็นตัวบอก ถึงความชัดเจนที่ต่างไป อาการเกิดดับบางกว่าเดิม แต่ชัดเจนมากกว่าเดิม เด็ดขาดมากกว่าเดิม ถ้าสังเกต แบบนั้น รู้ความต่างแบบนี้จะเป็นการดี เพราะจะเป็นการรู้ด้วยสติสัมปชัญญะที่เต็มเปี่ยม
จะไม่มีอาการไม่เป็นการรู้แบบเผิน ๆ เพลิน ๆ รู้แบบเผิน ๆ เพลิน ๆ ผ่าน ๆ รู้เรื่อย ๆ ทาไม ถึงอาจารย์พูดอย่างนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้เผิน ๆ เพลิน ๆ ผ่าน ๆ เรื่อย ๆ นี่นะ ลองสังเกตดูว่า สติสัมปชัญญะดีแค่ไหน แก่กล้าแค่ไหน แต่ถ้าเรารู้ชัดรู้อย่างคมชัด รู้สึกชัดในอาการที่เกิดขึ้น ดับก็เห็น ชัดว่าดับ ไม่ดับก็เห็นชัดว่าไม่ดับ ดับแบบมีเศษก็เห็นชัดว่ามีเศษ ไม่เหลือเศษก็เห็นชัดว่าไม่เหลือเศษ