Page 79 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 79
599
สภาวธรรมที่ปรากฏเฉพาะหน้า จิตเป็นจิตของเราเอง เราจะต้องสารวจได้ตรวจสอบได้ เข้าไปรู้จริง ๆ ไม่ ต้องคิดว่าน่าจะ...นะ ไม่ต้องคิดว่าน่าจะ ให้รู้เลยว่าขณะนี้สภาพจิตเป็นแบบนี้ อาการเขาจึงเปลี่ยนแบบนี้
ทีนี้พอดูไปสักพัก จากที่เฉย ๆ ทันทีที่จิตเฉยอารมณ์อะไรกระทบก็ไม่รู้สึก ไม่มีความหวั่นไหว ไปกับอารมณ์เหล่านั้น ยิ่งมีเจตนาเข้าไปดูจิตที่เฉย พอไปดูในจิตที่เฉย ๆ เป็นอุเบกขา พอมีเจตนาเข้า ไปรู้ข้างในลึก ๆ แล้วกลายเป็นว่าในความรู้สึกที่อุเบกขามีความสงบ มีความสงบอยู่ มีความสงบหล่อเลี้ยง ภายในลึก ๆ นะ พอมีความสงบอยู่ พอเห็นว่าจิตมีความสงบ รู้เข้าไปในความสงบ กาหนดดูเข้าไปใน ความสงบ ในความสงบทกี่ วา้ งลกึ ๆ ยงั มคี วามสขุ มคี วามนมุ่ นวล ลกึ ๆ มคี วามออ่ นโยนรองรบั กลายเปน็ ว่าลึก ๆ แล้ว มีเมตตาอยู่ พอมีเมตตาอยู่ ทีนี้ผลกระทบตามมาคืออะไร จากที่วางเฉยกับอารมณ์ไม่ยินดี ยินร้ายกับอารมณ์รอบตัวเรา บางครั้งเกิดความรู้สึกว่า นอกจากไม่ยินดียินร้าย กลายเป็นมีเมตตาเกิด ขึ้นมารองรับมีความเห็นใจ มีความเห็นอกเห็นใจ มีความเข้าใจ ทาให้เกิดความเมตตาไปรับรู้อารมณ์ เหล่านั้นอีก
นั่นเห็นไหมว่าอะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นเหตุทาให้เกิดความเมตตา เกิดความเข้าใจในอารมณ์ที่เข้า มากระทบ เข้าใจในธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงคน เสียงนก เสียงอะไรก็ตาม จะมีความเข้าใจว่า อ๋อ! เสียงเขาเป็นอย่างนี้เอง เสียงเขาเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ เกิดอยู่ท่ามกลางความสงบ ฟังแล้วรู้สึกไพเราะ เห็นไหม!ไม่เกี่ยวกับชอบหรือไม่ชอบ กลายเป็นว่า...พอมีเมตตาภายใน อารมณ์ที่เกิดขึ้นฟังแล้วเป็น อย่างไร ท่ีเรียกว่าไพเราะ...เพราะอะไร เพราะเกิดจากจิตที่เป็นกุศล จิตที่เป็นกุศล จิตที่ดี จิตที่เป็นบุญ นั่นแหละจิตที่มีเมตตานั่นแหละ
พอจิตมีเมตตาเมื่อไหร่ ลองสังเกตดู การรับรู้อารมณ์ที่ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เขา เปลี่ยนไป เหมือนที่เราดูจิต จิตยิ่งผ่องใส นั่งแล้วจิตมีอาการเกิดดับหมดไป จิตผ่องใส ๆ ใสมาก ๆ พอ ลมื ตาขนึ้ มาบรรยากาศขา้ งหนา้ กใ็ สไปหมด ไปดมู องอะไรรอบตวั บรรยากาศรอบตวั กใ็ สไปหมด ตรงนเี้ กดิ จากอะไร เกดิ จากจติ ทผี่ อ่ งใส เพราะฉะนนั้ ทมี่ าทที่ า ใหบ้ รรยากาศรอบตวั ใสกค็ อื ...จติ ทใี่ ส ทนี ถี้ า้ สงั เกตดี ๆ ว่า บรรยากาศรอบตัวที่ใส ๆ ที่กว้าง มองบรรยากาศ มองไปข้างหน้า เห็นต้นไม้ก็คมชัด เหมือนเห็นอากาศ ก็ใสไปหมด ถามว่าความใสอันนั้นเป็นสภาพจิต เป็นบรรยากาศของสภาพจิตเราด้วยหรือเปล่า นี่คือจุดที่ เราพึงสังเกตนะ
กต็ อ้ งสงั เกตทงั้ หมด จติ มนั กวา้ งขนึ้ จติ ทใี่ สกวา้ งขนึ้ เลยเหน็ อะไรกใ็ ส เหน็ ตน้ ไมก้ เ็ กดิ อยใู่ นความ ใส เห็นคนเดินก็เดินอยู่ในความใส เห็นนกบินก็บินอยู่ในความใส เวลาเห็นจิตสว่าง เห็นเดิน ๆ ๆ เหมือน เดินอยู่ท่ามกลางความสว่าง พอมองไปข้างนอกก็เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เกิดอยู่ในท่ามกลางความสว่าง ตรงนี้คือ การสังเกตพิจารณาว่า สภาวธรรมที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากอะไร และสภาพจิตเปลี่ยนไปต่างจากเดิมอย่างไร แล้วก็จะเห็นว่า...แล้วถามว่าจิตที่ใสอย่างนี้ดีไหม จิตที่สงบอย่างนี้ดีไหม
สารวจที่อาจารย์ถามแบบนี้บ่อย ๆ เพราะอะไร เพราะบางทีเวลาโยคีเล่าสภาวะ เวลาเล่าสภาวะรู้ แต่ว่ามันใส ๆ อะไรใส มันใสไม่ใช่สภาพจิตของเราใส กลายเป็นว่าเราเป็นผู้ดูเข้าไปในความใส เราก็ดู