Page 8 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 8

528
อารมณ์ที่เข้ามากระทบนั้นตั้งอยู่ได้นานแค่ไหน หรืออายุอารมณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งอยู่นาน ๆ เขาต่าง จากเดิมอย่างไร นี่คือสิ่งที่เราพึงสังเกตว่าผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของเราทาให้สภาพจิตใจเป็นอย่างไร
ทีนี้ เมื่อจิตเราว่างมากขึ้น อายุอารมณ์เปลี่ยนไป การรับรู้อารมณ์ทางตาหูจมูก...เปลี่ยนไป สิ่ง ที่พึงพิจารณาตรงนี้ก็คือว่า เมื่อรูปเบาจิตเบา ถามว่า ภาพที่เห็นข้างหน้า/เสียงที่ได้ยิน รู้สึกหนักหรือเบา มีน้าหนักหรือเบา ๆ บาง ๆ ? การพิจารณาในลักษณะอย่างนั้น จะทาให้เห็นว่าอารมณ์ที่ปรากฏขึ้นมาใน ครั้งถัด ๆ ไปนั้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงหรือภาพที่เห็นก็ตามส่งผลต่อสภาพจิตเป็นอย่างไร ส่งผลต่อสภาพจิต เป็นอย่างไร หมายถึงว่าอารมณ์ที่เคยปรากฏทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ที่เคยทาให้จิตใจ ขุ่นมัวเศร้าหมอง ตอนนี้อารมณ์เหล่านั้นสามารถมาปรุงแต่งจิตให้เป็นอย่างนั้นได้ไหม หรือไม่สามารถ ปรุงแต่งจิตได้แล้ว เหลือแต่การปรากฏขึ้นมาตามธรรมชาติตามเหตุปัจจัยที่กาลังเป็นไปเท่านั้น ?
ถ้าเห็นว่าอารมณ์เหล่านั้นก็เป็นไปตามเหตุตามปัจจัยธรรมดา ไม่สามารถปรุงแต่งจิตให้เกิดเป็น อกศุ ลได้ เราควรจะดสู ภาพจติ ตอ่ เนอื่ งมากนอ้ ยแคไ่ หน ? หรอื รสู้ กึ ไหมวา่ การปฏบิ ตั แิ บบนที้ า ใหเ้ ราปอ้ งกนั อกศุ ลทจี่ ะเกดิ ขนึ้ กบั จติ เราได้ และเราจา เปน็ ตอ้ งปฏเิ สธการรบั รอู้ ารมณเ์ หลา่ นนั้ ทงั้ หมดไหม หรอื เราปฏเิ สธ ได้หรือไม่ได้ ? รับรู้เหมือนปกติแต่ไม่ปรุงแต่งจิต ถามว่า จาเป็นต้องปฏิเสธอารมณ์ที่ปรากฏรอบตัวไหม หรือเราควรจะทาใจอย่างไรเพื่อไม่ให้อารมณ์เหล่านั้นมาปรุงแต่งจิตเราได้อีก หรือจะวางใจอย่างไรไม่ให้ อารมณ์เหล่านั้นมาบีบคั้นจิตใจให้เป็นอกุศล ? พอถามคาถามเหล่านี้ ก็กลับไปที่คาตอบเดิม ก็คือทาใจให้ ว่าง ๆ ทาใจให้กว้าง ๆ ทาใจให้ไม่มีตัวตน แยกจิตกับอารมณ์เป็นคนละส่วนกัน
สิ่งหนึ่งในการดูสภาพจิตก็คือว่า เมื่อพิจารณาในลักษณะอย่างนี้ในทุก ๆ อารมณ์ ผลที่เกิดขึ้น ทาให้สภาพจิตเปลี่ยนไปอย่างไร... จากที่เคยรู้สึกแค่ว่าง ๆ โล่ง ๆ โปร่ง ๆ เบา ๆ ตอนนี้สภาพจิตมีความ รู้สึกตั้งมั่นขึ้น หนักแน่นขึ้น ตื่นตัวขึ้น ผ่องใสขึ้น ความสงบมีความหนาแน่นขึ้น หรือยิ่งเบิกบานมากขึ้น นี่ คือการดูสภาพจิต ทีนี้ สภาพจิตที่ยิ่งรู้สึกหนักแน่นมั่นคงตั้งมั่น ที่เรามักใช้คาว่าจิตมีกาลังมากขึ้น ถามว่า มีกาลังแบบไหน ? บางทีก็บอกไม่ถูก แต่รู้สึกว่ามีกาลัง มีความหนักแน่นมั่นคงตั้งมั่น เมื่อสภาพจิตเป็น แบบนี้ สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อก็คือว่า สภาพจิตยิ่งมีกาลังหนักแน่นมั่นคง พอกลับไปรับรู้อารมณ์ที่กาลัง ปรากฏอยู่เฉพาะหน้า ไม่ว่าจะเป็นเสียง เป็นความคิด เป็นเวทนาที่เกิดขึ้นมา เอาความรู้สึกที่มีกาลังหรือ จิตที่มีกาลังเข้าไปรับรู้ปึ๊บ เขาดับในลักษณะอย่างไร...
อารมณเ์ หลา่ นนั้ ดบั แบบมเี ศษหรอื ไมม่ เี ศษ... ดบั แลว้ เกลยี้ งไป ดบั แลว้ วา่ งไป ดบั หมดจดไมเ่ หลอื เศษของอารมณ์ หรือดับแล้วยังมีเศษค้างอยู่ในใจของเรา ? เศษค้างอยู่คืออะไร ? คือรสชาติของอารมณ์ที่ ปรากฏขนึ้ มา อยา่ งเชน่ กระทบแลว้ รสู้ กึ มคี วามหนกั หรอื กระทบแลว้ มอี าการเปน็ กอ้ นขนึ้ มา เปน็ ดวงขนึ้ มา แล้วก็ดับไป เขาดับแบบค่อย ๆ หรือเด็ดขาดฟึบหาย ฟึบหาย ? ถ้ารู้สึกว่า มาดูสภาพจิตยิ่งมีกาลัง อาการ เกิดดับยิ่งเด็ดขาดมากขึ้น ถามว่า ยิ่งอาการ(เกิดดับ)เด็ดขาดมากขึ้นเท่าไหร่ สภาพจิตยิ่งรู้สึกอย่างไร... ยิ่ง มั่นคงตั้งมั่น ยิ่งใส ยิ่งแกร่งมากขึ้นหรือเปล่า ? นี่คือการดูสภาพจิต


































































































   6   7   8   9   10