Page 83 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 83

603
สั่น ๆ มีอาการไหว ๆ มีอาการผุดขึ้นมาเป็นขณะเป็นดวง ๆ เป็นสี หรือมีความสว่างขึ้นมา วาบหาย ๆ นั่น ก็คืออาการเกิดดับ นั่นแหละสิ่งที่ต้องสังเกตต่อ เรารู้ว่าสภาพจิตเปลี่ยนไปแบบนี้
ถ้าไม่มีอาการพองยุบ ก็บอกว่าตอนนี้ไม่มีอาการพองยุบ ไม่มีลมหายใจเลย นั่งแล้ว...เริ่มนั่งทุก ครงั้ ก็รู้สึกมันว่างไปหมด แต่ในความว่างนั้นมีความคิดเกิดขึ้น หรือในความว่างนั้นได้ยิน...มีเสียง มีอาการ เกดิ ดบั ของเสยี งปรากฏเกดิ ขนึ้ มา ในความวา่ งนนั้ มอี าการเวทนาเกดิ ขนึ้ ในความวา่ งบรเิ วณทตี่ วั รสู้ กึ วา่ ง ๆ แต่ว่ามีอาการเวทนาเกิดขึ้น ทีนี้พอจิตเป็นแบบนี้ เวทนาที่เกิดขึ้นมานั้นเกิดดับอย่างไร อันนี้ต้องใส่ใจ เขา เรียกว่าเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน ตามกาหนดรู้อาการของเวทนา อย่างที่บอกแล้ว
ทนี กี้ ารใสใ่ จตรงนกี้ ารกา หนดรเู้ วทนา ทตี่ อ้ งกา หนดรเู้ วทนาเพราะ ถา้ ไมม่ อี ะไรอาการอะไร อารมณ์ อะไรชัดกว่าเวทนา ก็เอาเวทนานั้น ๆ มาเป็นอารมณ์วิปัสสนา เป็นอารมณ์กรรมฐาน ถึงแม้ว่าเวทนานั้นจะ ไมร่ บกวน ไมไ่ ดเ้ กดิ มาบบี คนั้ จติ ใจ ไมไ่ ดค้ มชดั จนมาบบี ใจใหเ้ กดิ ความทกุ ขท์ รมาน แตน่ นั่ คอื เปน็ อารมณ์ ปัจจุบันที่เด่นชัดที่สุด ว่าเรากาหนดรู้อาการเกิดดับของเวทนา ก็ไม่ได้หมายความว่าทาให้เวทนานั้นหายไป แต่อาศัยเวทนานั้นเป็นการเจริญกรรมฐาน เอาเวทนานั้นมาเป็นอารมณ์กรรมฐาน เพื่อพิจารณาถึงกฎของ ไตรลักษณ์ ทีนี้ขณะที่เห็นเวทนาเกิดอยู่ในที่ว่าง ๆ เมื่อมีเจตนาที่จะไปรู้ว่าเวทนาเกิดดับอย่างไร ก็ต้อง กาหนดอย่างพอใจ
อย่างเช่น พอเข้าไปรู้มีสติเข้าไปรู้เวทนา ที่เกิดขึ้นในที่ว่าง ๆ เขามีอาการขยับนิดหนึ่ง ๆ ๆ พอรู้ เข้าไป ยิ่งรู้เข้าไปอาการขยับเริ่มชัดขึ้น เริ่มชัดขึ้น เริ่มกระจายออกไป จางไป กระจายไป ยิ่งกาหนดรู้ต่อ ไปเวทนานั้นอาการกระจาย กระจายออกไป แผ่ออกไป จากที่ปวดเป็นก้อนดูไม่มีอะไรเริ่มชัดขึ้น สติยิ่งตั้ง มั่นจิตตื่นตัวขึ้น นั่นคือผลที่ได้ เห็นไหมการที่เรากาหนดรู้อาการแบบนี้ มีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน กาหนดอะไร เพื่ออะไร เพื่อให้จิตมีความตั้งมั่น สะอาดขึ้น ผ่องใสขึ้น นั่นคือการพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ การรู้ อาการเกิดดับของเวทนาไป ทีนี้พอยิ่งกาหนดรู้ไป ๆ เวทนา...สักระยะหนึ่งแผ่กระจายออกไป แป๊บเดียว มีอาการเวทนาเปลี่ยนเป็นพุ่งปรี๊ดขึ้นมา พุ่งขึ้นมา แปล๊บหรือว่าพุ่งแรง ๆ ปวดจี๊ดขึ้นมาเลย นั่นก็คือการ เปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ไม่ต้องกังวล ผิดหรือเปล่า ทาถูกหรือเปล่า ไม่ต้องสนใจเวทนาได้ไหม
ถ้าไม่ต้องสนใจเวทนาแล้วจะกาหนดอะไร ถ้ามีอารมณ์อื่นให้กาหนดนั้นดี แต่ถ้าไม่กาหนดเวทนา แล้วนั่งนิ่งเฉย ๆ อยู่กับความว่าง อยู่แบบลอย ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องมานั่งต้องทุกข์ รู้สึกสบาย ๆ แต่ว่า สภาวธรรมก้าวหน้าไหม นั่นอีกเรื่องหนึ่งนะ สภาวธรรมก้าวหน้าไหมนั่นอีกเรื่องหนึ่ง บางครั้งเหมือนเรา นั่งพักเฉย ๆ สภาวธรรมไม่ก้าวหน้าหรอก รู้แต่ทาไมตรงไหนที่ไม่ก้าวหน้า จิตไม่ได้ใสขึ้น จิตไม่ได้สะอาด ขึ้น จิตไม่ได้สว่างขึ้น สมาธิไม่ได้ตั้งมั่นขึ้น สติไม่ได้แก่กล้าขึ้น ได้แต่สงบ ๆ เงียบ ๆ เฉย ๆ เรื่อย ๆ นั่น เป็นเหตุว่าจิตไม่ได้สะอาดขึ้น คือจิตไม่ได้พัฒนาขึ้น สติไม่ได้แก่กล้าขึ้น ไม่ได้ตื่นตัว ไม่ได้ผ่องใสขึ้น นั่น คือสติก็ไม่ได้พัฒนาขึ้น
ถ้าไม่ได้พัฒนาขึ้น ไม่สะอาดขึ้นแล้วนี่นะ จะว่าดีพอหรือยัง หรือว่าพอใจแล้ว อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ... ถ้าพอใจแล้วก็ตามใจตามสบาย แต่ถ้าอยากให้พัฒนาขึ้นไปอีกก็ต้องรู้ให้ชัด รู้ให้ชัดในสภาวธรรม ทีนี้เรา


































































































   81   82   83   84   85