Page 91 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 91

611
ทีนี้...การพัฒนาจิต เราพัฒนาอะไร พัฒนาจิตที่ดีอันนี้แหละ ให้ดียิ่งขึ้นไป ดียิ่งขึ้นไป จิตที่ดีแล้ว หมายถึงจิตที่เบา จิตที่ว่าง จิตที่สงบ ให้มีกาลังมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน จิตที่ว่าง จิตที่เบา จิตที่สงบ พอมีกาลังมากขึ้น สังเกตไหมว่า สังเกตต่ออีกนิดหนึ่ง อาจารย์เฉลยไปหมด...โยคีก็ไม่ได้สังเกต เชื่อหมด เลย อ๋อ! เคยเห็นแล้ว อาจารย์พูดเป็นอย่างนั้น...ไม่ได้ เราต้องสังเกตแบบนี้ ลองดูนะ เมื่อกี้นี้ พอจิตกว้าง เราศึกษาอะไร เราศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า ศึกษาถึงความเป็นอนัตตา เราก็รู้แล้วจิตที่ว่างเบา ไม่มีเรา เป็นอนัตตา มีเราไหม บอกว่าเป็นเรา หรือไม่บอก พอไม่บอกว่าเป็นเราแล้ว จิตเขาสงบหรือใส หรือนุ่มนวล หรือโล่ง โปร่ง สว่าง ลองดูว่าเป็นแบบไหน...ขณะนี้
รู้เข้าไปในจิตที่เป็นอยู่ ตรงนี้ ถ้าจากจิตที่เวลาเรามีความทุกข์ จิตเราจะมีความขุ่น ความมัว ความ สลัว ความทึบขึ้นมา แต่พอขยายออก ความทุกข์นั้นลดลง จิตเริ่มสว่างขึ้น เริ่มใสขึ้น พอรู้เข้าไปอีก ดูจิต ในจิต จิตที่มีความสงบ ความว่าง ความเบา เข้าไปรู้ต่อในความว่าง เข้าไปดูจิตที่สงบ ในความสงบมีกิเลส ตัวไหน มีโลภะ มีโทสะ มีโมหะ มีปฏิฆะ มีนิวรณ์ หรือมีความผ่องใส มีความสว่างมากขึ้น ตรงนี้...คือการ สารวจจิต เป็นการดูจิตในจิต
แล้วจิตยิ่งดูไป เขายิ่งมีกาลัง ใสขึ้น สะอาดขึ้น จิตนั้นพัฒนาหรือยัง ก็ค่อยพัฒนาขึ้น อะไรพัฒนา ขึ้น สติดีขึ้นไหม สมาธิดีขึ้นไหม สงบขึ้นไหม ตั้งมั่นขึ้นไหม เบาก็จริง โล่งก็จริง แต่ไม่วุ่นวาย บางทีจะรู้สึก ว่า เอ๊ะ! ทาไมเราเคยนั่งแล้วมันดิ่ง สงบลึก ๆ ๆ เหมือนอยู่ในถ้า เรารู้สึกสงบมาก ๆ แต่พอจิตกว้างขึ้น กว้าง ๆ แล้วมันไม่วุ่นวาย แต่เรารู้สึกมันไม่ดิ่ง เราก็เลยรู้สึกว่าไม่สงบ มันไม่ค่อยสงบ แต่มันเบา มันโล่ง อะไรก็กระทบไม่ได้ เบาอย่างเดียว ลองสังเกตจิตที่เบา เขาวุ่นวายหรือสงบ ความสงบตรงนี้ เป็นความสงบ ที่พร้อมจะใช้งาน สังเกต...จิตกว้าง เบา สงบ ก็พร้อมที่จะรับรู้อารมณ์ต่าง ๆ ใช้งานได้ดี จิตจะคล่องแคล่ว ว่องไว เขาไม่มีอาการดิ่ง...เงียบอย่างเดียว ตรงนี้แหละมีทั้งสติสมาธิและปัญญา
ปัญญานี้ก็จะมีความแตกต่างกันนิดหนึ่ง ในแต่ละคน คนเรามีปัญญาไม่เท่ากัน ตรงที่ความเข้าใจ ในเรื่องราวไม่เท่ากัน แต่ปัญญาวิปัสสนา ถ้าใครเห็นจิตที่ว่าง ก็ว่างเหมือนกัน ใครเข้าถึงความเบา ก็เบา เหมือนกัน ใครเข้าถึงความสุข จะสุขเหมือนกัน อันนี้คือ จะมีความรู้สึกที่เห็นแบบเดียวกัน เหมือนกัน หมด แต่การที่เข้าถึงความว่างแล้วนี่นะ จะเข้าใจถึงคุณค่าของความว่างนี้แตกต่างกัน การที่เราเข้าถึง ความสงบ รู้...เข้าใจ ถึงคุณค่าของความสงบแตกต่างกัน นาจิตที่สงบแล้วไปใช้ประโยชน์ได้แตกต่างกัน ไม่เท่ากัน อันนี้คือปัญญา
ในอีกเรื่องหนึ่ง ในลักษณะหนึ่ง คือการที่รู้จัก...เขาเรียกว่าพิจารณา รู้ถึงสาระ รู้ถึงประโยชน์ อันนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละคน แต่สภาวธรรม สัจธรรมที่เราจะพัฒนา ทุกคนจะเห็นแบบเดียวกัน อย่างที่บอก ดูเข้าไป ในจิตที่สงบ จิตที่ว่าง จิตที่เบา จิตที่ใส แล้วก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกัน เห็นแบบเดียวกัน แต่ ใครที่มีสภาวะตรงไหนเป็น...ผู้นา มีความสงบนา มีความใสนา มีตัวเมตตา มีความสุขนา บางคนนี่นะ นั่ง ปฏิบัติมีแต่ความสุข แต่พอไปเดิน แยกรูปนามได้ปึ๊บ มีปีติเกิดขึ้นเลย มีความสุข ความอิ่มใจ สบายใจ เบิกบานใจขึ้นมา


































































































   89   90   91   92   93