Page 98 - ๕๐ ปี ๑๐๐ สัจธรรม-การดูสภาพจิต
P. 98
618
จติ ทรี่ วู้ า่ คดิ นนี่ ะ ถา้ ไปดจู ติ ทที่ า หนา้ ทรี่ ู้ ตวั น.ี้ ..จะดบั เรว็ กวา่ เรอื่ งราว พอตรงนดี้ บั ปบ๊ึ จติ ทที่ า หนา้ ที่ รู้ก็ดับ ไม่เที่ยง พอดับไป เกิดมารู้ใหม่ ดับไป เกิดมารู้ใหม่ เป็นจิตดวงใหม่เกิดขึ้นมา แล้วตัวไหนที่บอกว่า เป็นเรา จิตตรงไหนที่บอกว่าเป็นเรา กลายเป็นว่า จิตเกิดขึ้นมารับรู้ ดับไป ทาหน้าที่ตามปกติ ทาหน้าที่ของ ตนไป พออาจารย์สรุปเสร็จ ไม่ต้องปฏิบัติก็ได้แล้ว
แต่ทีนี้ลองดูว่า พออาการเกิดดับ ถ้าเราเห็นเป็นจิตดวงใหม่เกิดขึ้นมา ดับไป แล้วจิตดวงใหม่เกิด ขนึ้ แตล่ ะครงั้ จติ ดวงใหมท่ เี่ กดิ ขนึ้ ตา่ งจากเดมิ อยา่ งไร จติ ดวงใหมท่ เี่ กดิ ขนึ้ ตา่ งจากเดมิ อยา่ งไร อนั นใี้ หก้ าร บ้านไปหาดูนะ หาดู พิจารณาใส่ใจ อีกสัก ๒ ปี ค่อยเห็นก็ได้ หรือจะเห็นอีกสัก ๒ นาที ๓ นาที ๑ ชั่วโมง ไม่ต้องนานเกินหรอก เราปฏิบัติแบบเราเห็นสภาวะเกิดดับ วิธีที่จะเห็นชัด วิธีการที่จะดูจิตในจิตตรงนี้ ดู อาการเกิดดับของจิตตัวนี้ ต้องอาศัยทุก ๆ อารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจ เป็นอาการทางกาย เป็นเวทนา เป็นความคิด เป็นอาการพองยุบ เป็นอาการเกิดดับที่วับ ๆ เป็นเสียง ตรงนี้การดูจิตในจิต
ดูจิตที่ทาหน้าที่รู้อารมณ์ต่าง ๆ ต้องใช้ทุก ๆ อารมณ์ ไม่ใช่แบบนั่งรออย่างเดียว...ไม่ได้ เพราะการ ที่เราอาศัยอาการเกิดดับของทุก ๆ อารมณ์ ทุก ๆ อารมณ์จิตทาหน้าที่รับรู้อยู่แล้ว ทีนี้มันก็กลับมาตรงที่ว่า การดูจิตในจิต หรือรู้อาการดูจิตในจิต การที่จะเห็นจิตตรงนี้ดับ ก็ต้องอาศัยอาการของรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ กาย เวทนา จิต ธรรม
ที่บอกว่าพอเราเห็นอาการเกิดดับ เวลาเราเดินจงกรมหรือนั่งกรรมฐาน พออาการนั้นดับ จิตที่ไปรู้ ดับด้วย จิตที่รู้ดับปึ๊บ จิตดวงใหม่ก็จะเกิดขึ้น ดับไปแล้ว สภาพจิตที่ตามมา คือเห็นอาการดับไปจิตใสขึ้น ดับไปแล้วเบาขึ้น ดับไปแล้วโล่งขึ้น ดับไปแล้วสงบขึ้น กลายเป็นว่า เห็นทั้งรูปทั้งนาม เห็นกายเห็นจิต เป็นการดูกาย เห็นอาการเกิดดับของรูปนาม ก็เห็นจิตไปในตัว กลายเป็นว่า ถึงไม่บอกก็รู้สภาพจิต ที่บอก ว่า ถึงไม่ได้บอกว่าดูจิตก็รู้ว่าจิตมันเบา มันโล่ง เพราะเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติโดยตรง เป็นผลที่เกิด ขึ้นทันที เพียงแต่ว่าเป็นขั้นตอนที่เราต้องใส่ใจ ให้ใส่ใจให้มากขึ้น
เราจะได้รู้ว่าการปฏิบัติของเรานี่นะ พัฒนาจิตเราไปอย่างไร ที่บอกสติเราแก่กล้าขึ้น ผ่องใสขึ้น สงบขึ้น คือผลที่ตามมา และการสนใจอาการเกิดดับ อะ! ไม่เป็นไร เอาไว้ก่อนก็ได้...ไล่ไม่ทันแล้ว ที่ข้าม ไปการดูจิตในจิตนี่นะ ข้ามไปตั้งนานแล้วนะ ย้อนกลับมานิดหนึ่ง การดูจิตในจิตที่บอกว่า หนึ่งที่อาจารย์ พูดว่ามีความว่าง ความใส ความเบา แต่การดูจิตที่บอกว่า มีผัสสะขึ้นมาแล้วเกิดความขุ่น เกิดความอึดอัด เราจะเห็นว่า ถ้าเราสังเกตจิตบ่อย ๆ นี่นะ เวลามันขุ่นขึ้นมา ขุ่นจริง ๆ ไม่ใส มันเป็นก้อน เป็นขุ่น ๆ มัว ๆ สลัว ทึบ ๆ ขึ้นมา แล้วแน่น ๆ อึดอัด พอแน่น ๆ ขึ้น ก็จะกลายเป็นอึดอัด อึดอัดก็ทนยาก กลายเป็นความ ทุกข์ นั่นคือลักษณะจิตที่ขุ่น เป็นเวทนาอย่างหนึ่ง เขาเรียกเป็นเวทนาทางจิต
ที่บอกดูสภาพจิตตรงนี้ ถามว่าสภาพจิตเป็นอย่างไร มันขุ่น มัว สลัว ทึบ แน่นไปหมดเลย เราจะ เห็นทันที ทีนี้เวลาดับล่ะ ความแน่นความอึดอัดนี่นะ ทาอย่างไร ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกาหนดรู้ แต่เมื่อรู้แล้วก็ ไม่จาเป็นต้องเก็บเอาไว้ ทุกข์เป็นสิ่งที่ต้องกาหนดรู้ แต่เมื่อรู้แล้วก็ไม่ต้องเก็บเอาไว้ ควรละไหม? เราปฏิบัติ เพื่อดับทุกข์ เห็นไหมปฏิบัติเพื่อดับทุกข์ ทาอย่างไร ความทุกข์ก็มันเกิดดับอยู่แล้ว...ใช่ ความทุกข์เกิด