Page 155 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 155

131
ภาวนา หรือการกระทาทางกาย วาจา และใจของเรา ไม่ว่าจะ “คิด” อะไร ก็ คิดด้วยความเมตตาต่อกัน มีความปรารถนาดีต่อกัน เวลาจะ “พูด” อะไร ก็ พูดด้วยความเมตตา ปรารถนาดีต่อกัน ไม่ว่าจะ “ทา” อะไร ก็ทาด้วยความ เมตตา ปรารถนาดีต่อกัน การกระทาเหล่านี้แหละ ความเป็นกุศลทั้งนั้น
การที่เราทาในลักษณะอย่างนี้ ความเป็นกุศลก็จะเกิดขึ้นกับใจเรา กับตัวเรา สิ่งดี ๆ ที่เราทาให้กับตัวเองและให้กับคนอื่น ความเมตตาเกื้อกูล ต่อกัน ทาให้สังคมเราอยู่เป็นสุข ทาให้ชีวิตของเราเป็นสุข เมื่อไหร่ก็ตามที่ เราขาดการเกื้อกูลเมตตาต่อกัน สังคมนั้นก็อยู่อย่างแห้งแล้ง หวาดระแวง หวาดผวา ไม่มีสุข มีแต่คอยกังวล การที่เรารักษาจิตของเรา การที่เรามีความ ปรารถนาดีต่อกัน จะทาให้เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข
เราไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก แต่เราอยู่เป็นสังคม อยู่กับกลุ่ม อยู่กับ องค์กร อยู่กับคนมากมาย เพราะฉะนั้น การไม่ทาบาป แล้วทากุศลให้ยิ่งขึ้น จิตที่เป็นกุศล คือจิตที่เป็นบุญ จิตที่เป็นบุญก็เป็นมงคลต่อตัวเอง เป็นสิ่งที่ ดีต่อตัวเอง เป็นสิ่งประเสริฐ เป็นพรอันประเสริฐกับตนเอง นั่นคือ การทา กุศลให้ถึงพร้อม ทั้งทางกาย วาจา และใจ ใครก็ตามที่นาไปปฏิบัติ ก็จะเห็น ผลว่าดีอย่างไร
ต่อไปคือ “การทาจิตของตนให้ผ่องใส” การทาจิตของตนให้ผ่องใส หรือทาจิตของตนให้ขาวรอบ อันนี้สาคัญมาก ๆ ถ้าเราพิจารณาดูแล้วว่า จิต เรายังไม่ขาวรอบ ไม่ผ่องใส ยังไม่หมดจดอย่างสิ้นเชิง ยังเป็นผู้ที่ต้องพัฒนา ต้องศึกษา ต้องปรับปรุง ต้องเพียร ต้องขัด ต้องเกลาอยู่ ก็หมั่นพิจารณา ดูจิตตัวเองบ่อย ๆ ว่าตอนนี้สภาพจิตของเราเป็นอย่างไร การทาจิตของตน ให้ผ่องใส หรือให้ขาวรอบนั้น เป็นธรรมอันยิ่ง เราเริ่มการควบคุมดูแลกาย ของเรา วาจาของเรา ให้เป็นไปในทางกุศลแล้ว ที่พิเศษยิ่งขึ้นก็คือ การทาจิต ของตนให้บริสุทธิ์ หรือผ่องใส หรือดับทุกข์อย่างสิ้นเชิงนั่นเอง นั่นน่ะ.. การ ทาจิตของตนให้ขาวรอบ


































































































   153   154   155   156   157