Page 174 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 174

150
ร้อยรัดสัตว์ให้ติดอยู่ในวัฏสงสาร
เครื่องร้อยรัดสัตว์ให้ติดอยู่ในวัฏสงสาร คือ โลภะ โทสะ โมหะ
เพราะฉะนั้น การที่จะตัดเครื่องร้อยรัดสัตว์ให้เราติดอยู่ในวัฏสงสาร เราจะ ทาอย่างไร ? มี “สติ” กาหนดรู้ตามความเป็นจริง สติ สมาธิ เป็นกาลัง ปัญญาเป็นเครื่องตัด เมื่อรู้แล้วก็ตัด เข้าไปดับ เข้าไปกาหนดรู้ แล้วก็วาง เสีย อะไรที่ผูกเราไว้ ยึดเราไว้ ให้เราติดอยู่กับโลก ๆ นี้ ภพภูมินี้
สังเกตดูดี ๆ ภพภูมินี้เราพยายามยึดเต็มที่ ไม่อยากไป แต่ถึงเวลา ก็ต้องไป แต่ละคนยึดโลกนี้ อยากอยู่ในโลกนี้นาน ๆ อยากอยู่ในภพภูมินี้ นาน ๆ ปรารถนาที่จะเกิด ตายแล้วเกิด.. ตายแล้วเกิดในภพภูมินี้อยู่นาน ๆ แต่ที่สุดแล้วก็ไม่ได้เป็นไปอย่างปรารถนา พอถึงเวลาก็เปลี่ยนภพภูมิ เปลี่ยนโลก เป็นไปตามกรรม ถึงแม้จะยึดยังไงก็ยึดไม่ได้ เพราะฉะนั้น เรา เป็นคนเปลี่ยนเองดีกว่า อย่ารอให้เขาเปลี่ยน เราเป็นคนเปลี่ยน มากาหนด ตัวเอง มากาหนดรู้กายดูจิตตัวเองว่าเราจะไปอยู่ภพภูมิไหน ไปอยู่โลกไหน อยากไปเกิดอีกหรือไม่เกิดอีก ก็อยู่ที่เราเป็นผู้กาหนด
พระพุทธเจ้าทรงบาเพ็ญเพียร บาเพ็ญบารมี ถึงสี่อสงไขยกับ แสนกัปป์ เพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น ปรารถนาอย่างเดียวที่มีความต่อเนื่อง ก็คือ ความเป็นพระพุทธเจ้า การตรัสรู้ธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ดูสิว่า “การ ตั้งจิต” ของพระองค์แน่วแน่แค่ไหน ตั้งจิตที่มุ่งมั่นแน่วแน่เพื่อที่จะไปสู่ ความเป็นพระพุทธเจ้า ใช้เวลาตั้งสี่อสงไขยกับแสนกัปป์ เราเป็นสาวกของ พระพุทธเจ้า เมื่อตั้งจิตปรารถนาที่จะเจริญรอยตามพระพุทธเจ้า ความตั้งมั่น ของจิตเรามี “แค่ไหน” ที่จะเป็นไปเพื่อความดับทุกข์จริง ๆ ?
วันนี้ตั้ง พรุ่งนี้ล้ม ลุกขึ้นมาใหม่ ตั้งใหม่ มันก็เหมือนตั้งไข่นะ ตั้ง แล้วล้ม ล้มแล้วก็ลุก กลิ้งไปกลิ้งมา... ต้องเปลี่ยนใหม่ แทนที่จะตั้งไข่ ก็ ตั้งกล่อง จะได้มีเหลี่ยมนิดหนึ่ง จะได้ไม่กลิ้ง ตั้งใจดี ๆ ตั้งมั่น “ตั้งใจแล้ว นะ จะไป.. ยังไงก็ทา ยังไงก็ทา จะเจออะไรก็ต้องทา” เพราะอะไร ? ถ้าเรา


































































































   172   173   174   175   176