Page 176 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 176

152
ชาติที่ผ่านมา.. ไม่รู้เราไปอยู่ที่ไหน เราไม่รู้ว่าชาติที่ผ่านมา.. เราไป เป็นอะไร เราไม่รู้ว่าเราปฏิบัติหรือเปล่า เราได้ฟังธรรมะบ้างไหม หรือ ไม่แน่! ชาติที่แล้วเราอาจจะสั่งสมมาเยอะ สั่งสมมาใกล้แล้ว ชาตินี้ลองดูสักชาติ เผื่อมันปริ่ม ๆ อาจจะใกล้แล้วก็ได้ พอคิดอย่างนั้น จิตก็ตั้งมั่นอย่างเดียว ก็คือว่า “ปฏิบัติ!” พอคิดอย่างนั้น จิตก็ตั้งมั่นอย่างเดียวว่า “ยังไงก็ได้!” หมายถึงว่าลาบากยังไงก็ได้ ตายเมื่อไหร่ก็ได้... เมื่อก่อนตายเมื่อไหร่ก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ต้องรักษาไว้ก่อน รู้สึกว่ายังมีค่าอยู่ ทุกคนก็พยายามรักษาเอาไว้
ชีวิตนี้มีคุณค่า เพราะว่าเราเอาไปใช้งานได้ ถ้าไม่มีร่างกาย เราจะไป อยู่ที่ไหน ? ไม่ได้อยู่โลกนี้แล้ว ไม่เป็นเทวดาก็เป็นอย่างอื่น ตอนนี้เรามีทั้ง ร่างกายมีทั้งใจ เพราะกาลังเป็นมนุษย์ มีโยมถามว่า “อาจารย์ มนุษย์ทุกคน ที่นั่งอยู่ที่นี่สามารถไปนิพพานได้หมด ใช่ไหม ?” บอกว่า “ใช่” “มนุษย์ทุก คนที่นั่งอยู่ที่นี่นะอาจารย์ ?” “ใช่!” “แต่คนไปไม่ได้ ใช่ไหม ?” คนน่ะวุ่นวาย ถ้าเป็นมนุษย์.. ใจสูง เขาคิดอย่างนั้น ทุกคนที่ไปปฏิบัติเป็นมนุษย์ทั้งนั้น เลย นั่งอยู่นี่ก็เป็นมนุษย์ทั้งนั้น มนุษย์เป็นคนที่มีจิตใจสูง เป็นผู้มีปัญญา ปรารถนาที่จะดับทุกข์ เขาถามอาจารย์สองสามรอบ เพื่อให้อาจารย์ยืนยัน “ไปได้.. ถ้าไม่ขี้เกียจ! ไปได้.. ถ้าตั้งใจปฏิบัติ!”
เพราะอะไร ? เพราะโดยสภาวธรรม ด้วยการปฏิบัติของเรา เวลา เราเล่า เราพูดออกมา... อ้อ! ยังมีปัญญาอยู่ ทุกคนมีปัญญาที่จะไปได้ เหลือ อยู่แต่ความปรารถนาที่ตั้งมั่น พอบอกถึงความปรารถนาที่ตั้งมั่น บางคนก็ว่า ถ้าปรารถนาอย่างนั้นก็เป็นความอยากสิ ? ความอยากเป็นกิเลสไม่ใช่เหรอ ? มีคาถามแบบนี้ขึ้นมาอีก ถ้าบอกว่าความอยากเป็นกิเลส.. ก็ใช่ อยากแบบ ไหนที่เป็นกิเลส ? อยากยึด อยากละ อยากได้ อยากเป็น เห็นไหม ความ อยากเป็นกลาง ๆ ใช่ไหม ? จะอยากแบบไหน ?
อาจารย์เลยบอกว่า พระพุทธเจ้า.. เพราะความอยากเป็นพระพุทธเจ้า จึงได้เป็นพระพุทธเจ้า เราปฎิบัติธรรมถ้าไม่อยากหลุดพ้น จะหลุดพ้นได้


































































































   174   175   176   177   178