Page 193 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 193

169
บางครั้งสภาพจิตที่ไม่ดีเกิดขึ้น มีอาการขุ่นมัว ห่อเหี่ยว แห้งแล้ง เกิดขึ้น ก็ลองพิจารณาดูว่า อาการเหล่านั้นเกิดเพราะมีตัวตน หรือเกิด เพราะมีปัญญาเห็นว่ารูปนามขันธ์ห้าเป็นของไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ เสมอ แล้วเกิดความเบื่อหน่ายในขันธ์ ในสังขาร ในโลก ไม่อยากจะเวียน ว่ายตายเกิดอีก เมื่อพิจารณาเห็นความเบื่อ ความหดหู่ ห่อเหี่ยว ไม่ว่าจะ ด้วยปัญญาหรือว่าด้วยกิเลสก็ตาม สิ่งสาคัญคือ ต้องมีสติเข้าไปกาหนดรู้ ว่า เขาเกิดแล้วดับอย่างไร
อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ รู้ถึงการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ของเขาอยู่ดี เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอาการอะไรปรากฏขึ้นมาทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย หรือใจก็ตาม ขณะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม ทา พูด คิด ก็ให้ยกจิตขึ้นสู่วิปัสสนาได้ พิจารณาอาการพระไตรลักษณ์ อาการเกิดดับ ของรูปนามอยู่เนือง ๆ จะทาให้สติเรามีความต่อเนื่อง ปัญญามีความต่อเนื่อง ก า ร พ จิ า ร ณ า ธ ร ร ม ะ ก จ็ ะ ม คี ว า ม ต อ่ เ น อื ่ ง ค ว า ม เ จ ร ญิ ใ น ธ ร ร ม ก จ็ ะ ป ร า ก ฏ ข นึ ้ ม า
ฉะนั้น ขอฝากเอาไว้ว่า สาหรับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรมที่เป็นไป เพื่อความดับทุกข์ เพื่อมรรคผลนิพพานนั้น ขอให้เจริญสติให้ต่อเนื่องกัน ไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหนก็ตาม ทั้งอิริยาบถหลักและอิริยาบถย่อย ควร ใส่ใจที่จะพิจารณาสภาวธรรมที่เกิดขึ้นอยู่เนือง ๆ เพื่อความเจริญความ งอกงามในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป จนกว่าจะเข้าถึงมรรคผลนิพพาน
วันนี้การแสดงธรรมมาก็เห็นว่าสมควรแก่เวลา ก็ขอจบลงไว้แต่เพียง
เท่านี้
ขอความเจริญในธรรมจงมีแก่ญาติโยมทุก ๆ คน เจริญพร


































































































   191   192   193   194   195