Page 207 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 207

183
ถอย ๆ เวลาขึ้นมาก็เร็วหน่อย ถึงถอยบ้างก็ไม่เป็นไร ที่จริงว่าโดยสภาวะ โยคีปฏิบัติได้ดีขึ้นเยอะ พระก็ปฏิบัติได้ดีขึ้นเยอะ เดินหน้าขึ้นเรื่อย ๆ ดีขึ้น เรื่อย ๆ สภาวะทาให้จิตเราเป็นยังไง ? “เปลี่ยน” ยังไง ? สภาวะจะเป็นอย่างไร ผลที่เกิดมาต้องเป็นเรื่องจริงของชีวิตเรา ไม่ใช่แค่ “หลับตาแล้วดี ลืมตา แล้วหาย”
เปลี่ยน “ทั้งหมด” ของความรู้สึกเรา รูปนามอันนี้ต้องเปลี่ยนไปด้วย ทั้งหมด คือต้องรู้สึกได้ว่ารูปนามเราเปลี่ยน จากที่เคยมีความหนา ๆ มีน้าหนัก อุปาทาน ความเป็นกลุ่มก้อนของรูปบางลง จางลง เบาลงกว่าเดิม หรือว่า มันหนักเหมือนเดิม ยังอยู่เท่าเดิม อันนี้คือการเปลี่ยนไปของรูป ถามว่า รูป นี้เปลี่ยนไปได้อย่างไร ? เพราะ “จิต” เปลี่ยนไป จิตเปลี่ยนอย่างไร ? สงบ กว่าเดิม เบาบางกว่าเดิม อายุอารมณ์สั้นกว่าเดิม ทาให้รูปว่างบางไป ไม่ใช่ ว่าหนุ่มกว่าเดิม ถ้าอายุมากขึ้นก็เป็นไปตามธรรมชาติเขาแหละ แต่ไม่แก่ง่าย แก่ช้าหน่อย จะรู้สึกยังสดชื่น
เพราะฉะนนั้ ทอี่ าจารยอ์ ยากใหพ้ จิ ารณามี ๒ อยา่ ง พจิ ารณาการปฏบิ ตั ิ ของเราว่าก้าวหน้าขึ้นหรืออยู่ที่เดิม ที่บอกว่าพิจารณาโดยจินตามยปัญญา โดยบัญญัติ โดยขณะใหญ่ “สภาพจิตใจ” ของเราต่างจากเดิมอย่างไร “อายุ อารมณ์” ของเราต่างจากเดิมอย่างไร อันนี้คือขณะใหญ่ ขณะเล็กก็คือ การที่ เรา “ยกจิตขึ้นสู่ความว่าง” ทาได้เร็วมากแค่ไหน เห็น “อาการพระไตรลักษณ์” ชัดเจนมากขึ้นไหม “อายุอารมณ์” สั้นลง นี่เราจะรู้ว่าพัฒนาขึ้นดีขึ้น แต่ “ลักษณะอาการเกิดดับ” ที่เป็นปัญญาญาณหรือเป็นวิปัสสนาญาณ อาจารย์ ต้องพิจารณาว่า โดยสภาวะแล้ว ไปอยู่ตรงไหนแล้ว
ถ้าจินตามยปัญญานี่เรารู้ได้ด้วยตัวเอง แต่อาจารย์รู้ว่าญาณนี้ญาณ สูงแล้วนะ บางคนลอยอยู่บนอวกาศแล้ว อยู่ที่จะไปไหนต่อ ? ลอยอยู่บน อวกาศก็เจอแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย อยู่กับธรรมชาติที่ว่าง เหมือน อยู่นอกโลก จะรู้สึกสบาย อิสระ ถ้าอยู่ตรงนั้นแล้ว อาจารย์ต้องพิจารณา


































































































   205   206   207   208   209