Page 225 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 225
201
มีกาลังชัดขึ้นมาเมื่อไหร่ ถ้ารู้ชัด เขาจะจานาน บางคนจาจนตายไม่ยอม ลืม บางคนอยากจะลืมก็ลืมไม่ได้ แต่บางเรื่องอยากจะจาก็จาไม่ได้ เขาทา หน้าที่ของเขาเอง เห็นไหมว่า แม้ตัวสัญญาขันธ์เขาก็ไม่เที่ยง เขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่ได้จาแค่เรื่องเดียว ในชีวิตของเรามีเรื่องเยอะแยะมากมายให้รับรู้แล้ว ก็จา
บางคนก็ชอบจาในเรื่องที่ไม่ควรจะจา ทาไมถึงเรืยกว่า “ไม่ควร จะจา” ? เพราะจาแล้วเป็นทุกข์ จาแล้วเศร้าหมอง จาแล้วขุ่นมัว จาแล้วหดหู่ จาแล้วไม่สบายใจ สิ่งที่ดี ๆ น่าจะจดจา กลับไม่จา! นั่นคือความไม่เที่ยง สัญญาก็ไม่เที่ยง แสดงว่าเขาไม่ใช่ของเรา เขาเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป บางครั้ง เกิดขึ้นมาอยากจะจา ก็หายไปเสียแล้ว เขาดับเสียแล้ว เห็นอยู่ดี ๆ แป๊บ เดียวดับหายไปเสียแล้ว! นึกไม่ออกเลยว่าคิดอะไร นั่นก็คือความไม่เที่ยง ถามว่า เขาเป็นของเราไหม ? เปล่าเลย เราควบคุมเขาไม่ได้ เขาจะดับเขาก็ ดับ พอจะเกิดขึ้นมาก็เกิด นั่นแหละคือความเป็นอนัตตา ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา
สังขารมี ๒ อย่างก็คือ ร่างกายของเรา กายสังขาร ถูกปรุงแต่งด้วย ธาตุ ๔ ธาตุ ๔ นี้อาศัยอะไร ? อาศัยอาหาร อาศัยอากาศ ตรงนี้ถูกปรุง แต่งขึ้นมาให้มีรูปร่าง และอาศัยกรรม ทาให้หน้าตาเป็นอย่างนั้น ผิวพรรณ เป็นอย่างนี้ นี่ก็คืออาศัยกรรมในอดีต แต่เจริญเติบโตตั้งอยู่ด้วยอาหาร และอากาศ นี่คือธรรมชาติของสังขาร แต่สังขารขันธ์อันนี้เขาบอกว่าเป็นเรา ไหม ? รูปเขาบอกว่าเป็นเราหรือเปล่า ? เปล่าเลย ก็เป็นรูปที่เป็นไปตามเหตุ ตามปัจจัย เหตุปัจจัยคืออะไร ? คือ อาหาร กรรม จิต อุตุ นั่นคือเหตุปัจจัย ให้ดารงอยู่และเป็นไปอยู่ทุก ๆ วัน
เพราะฉะนั้น เขาก็เป็นสิ่ง ๆ หนึ่งที่เกิดขึ้น ที่เราห้ามเขาไม่ได้ ห้าม แก่ไม่ได้ พยายามทาหลายอย่างเพื่อไม่ให้แก่ แต่ที่ดีที่สุดคือต้องทาใจ ถ้า ทาใจได้ก็ไม่แก่หรอก เพราะใจไม่รู้จักแก่ เกิดขึ้น ดับไป สดใสเบิกบาน