Page 238 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 238

214
จริง ๆ ว่าธรรมะที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์นั้นเป็นอย่างไร การที่เราจะดับทุกข์ได้ เพราะอาศัยปัญญา รู้ตามความเป็นจริงของ
สิ่งที่เกิดขึ้น ถึงธรรมชาติที่เป็นไปจริง ๆ ว่าความไม่มีตัวตนนั้นเป็นเช่นไร หรือความไม่เที่ยงเป็นอย่างไร การเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปส่งผลอย่างไร การ เห็นถึงความไม่มีตัวตนเราเขาแล้วส่งผลต่อจิตใจอย่างไร... ไม่มีเรา ไม่มีเขา แล้วเหลืออะไร ? ก็คงเหลือแต่ใจที่ว่างเปล่าที่ทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ หรือใจ ที่ว่างเบาทาหน้าที่รับรู้อารมณ์ที่เกิดขึ้น ลองเข้าไปรู้ใจที่ว่างและเบาของ ตัวเองสิว่า มีโลภะ โทสะ โมหะ เกิดขึ้นไหม ? หรือว่ามีแต่ความผ่องใส ความ โปร่ง ความเบา ความเบิกบาน ความสงบ ? นี่คือการดูจิตในจิต เข้าไปรู้ถึง ข้างในจิตใจของเราจริง ๆ ว่าเป็นอย่างไร
ทีนี้มีปัญหาอยู่ว่า เมื่อเห็นสภาพอย่างนี้แล้ว จะรักษาธรรมเหล่านี้ ไว้ได้อย่างไร ? เราจะรักษาความว่าง ความโล่ง ความโปร่ง ความเบา ความผ่องใสนี้ได้อย่างไร ? มีทางเดียวที่จะรักษาได้คือ ทาให้มากขึ้น ทาให้บ่อยขึ้น แล้วไม่ต้องกลัวเขาหาย ยิ่งทายิ่งผ่องใส ยิ่งทายิ่งว่าง ยิ่งทายิ่ง โล่งยิ่งโปร่งยิ่งเบา ยิ่งทายิ่งสะอาด เพราะฉะนั้น ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะหายไป แต่ถ้าเมื่อไหร่หยุดทา แล้วไม่ใส่ใจ เมื่อนั้นเขาก็จะกลับมาที่เดิม หรือรู้แล้ว ไม่จา ทาไม่ได้ ก็กลับไปที่เดิม ขุ่นมัว เศร้าหมอง หรือเป็นทุกข์
แต่ถ้าเรารู้วิธีทา จาได้ ต้องการเมื่อไหร่ก็จาได้ พิจารณายกจิตได้ ทันที ฝึกจนเกิดความชานาญ มีอารมณ์เข้ามากระทบ ยกจิตได้ทันที ไม่มี การลังเล ยกจิตขึ้นได้ทันที ไม่มีการเกาะเกี่ยวหรือตามอารมณ์ ก็จะทาให้จิต เราสงบได้เร็วขึ้นหรือว่างได้เร็วขึ้น ยิ่งยกจิตได้เร็วเท่าไหร่ ความว่างก็จะอยู่ กับเรานานเท่านั้น ทาอย่างไรจะให้ความว่างอยู่กับเรานาน ? สิ่งไหนก็ตาม ที่เราใช้บ่อย ๆ เราก็จะมีความชานาญ แล้วก็อยู่กับเรานาน แต่ถ้าเราไม่ ค่อยใช้ เขาก็อยู่กับเราไม่นาน ถึงจะมีก็เหมือนไม่มี ถ้ามีแล้วไม่ใช้ก็เหมือน ไม่มี มีสติแต่ไม่ใช้สติ มีปัญญาไม่ใช้ปัญญา ก็เหมือนไม่มี มีจิตที่ดีแล้ว ถ้า


































































































   236   237   238   239   240