Page 249 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 249

225
เกิดจากภายในของเรา บางครั้งเกิดจากที่เราคิดเอาเอง คิดเองเออเอง คิด ว่าคนอื่นจะรู้จะเข้าใจทั้งหมด ต้องรู้เหมือนเรารู้ หรือน่าจะรู้ในสิ่งที่เรารู้ อัน นี้ไม่เท่ากัน! วิธีคิดไม่เหมือนกัน มุมมองไม่เหมือนกัน ที่สาคัญคือ ถ้าเรา มามองดูตัวเอง ดูที่จิตของเรา เราจะเห็นว่าจิตของเราเป็นอย่างไร การรับรู้ อารมณ์เหล่านั้น รับรู้อย่างมีสติ มีปัญญา พิจารณาแล้วเข้าใจในอารมณ์ที่ กาลังปรากฏขึ้นมากน้อยแค่ไหน ตรงนั้นแหละ!
เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดจากความอยากทาไม่อยากทา ความพอใจไม่พอใจ อย่างเดียว เหตุปัจจัยที่ให้อารมณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นบาง ครั้งเกิดจากวิบาก เกิดจากกรรมที่เกิดขึ้นมาโดยที่เราไม่มีเจตนาไม่ได้ตั้งใจ แต่ผลที่เกิดขึ้นมาทาให้เรารู้สึกไม่สบายใจ บางทีเรามองข้ามกฎของกรรม การส่งผลของวิบากกรรม พอเราลืมตรงนี้ ก็คิดว่าต้องเป็นไปตามการ กระทาในปัจจุบันทั้งหมด การกระทาในปัจจุบันก็เป็นส่วนหนึ่งในการส่งให้ ผลของการกระทาของเราเป็นไปอย่างไร
อย่างเช่น การปฏิบัติธรรมของเราอาศัยการกระทาในปัจจุบันเป็น สาคัญ อดีตอาจจะเคยทามาแล้ว แต่ปัจจุบันนี่สาคัญว่าจะสานต่ออย่างไร มีความมุ่งมั่น มีเจตนา มีเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อการปฏิบัติให้ก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป ตรงนั้นแหละคือกรรมปัจจุบันเป็นสาคัญ เพราะฉะนั้น เวลาเราปฏิบัติ ธรรม จึงให้ “มีสติอยู่กับปัจจุบัน” และปัจจุบันของการปฏิบัติธรรมเป็น “ปัจจุบันขณะจริง ๆ” ไม่ใช่ปัจจุบันของวันนี้ ไม่ใช่ปัจจุบันของเดือนนี้ ไม่ใช่ ปัจจุบันของปีนี้ แต่ปัจจุบันขณะ คือขณะนี้ ที่กาลังนั่งอยู่ “ขณะนี้เดี๋ยวนี้” นี่ แหละ ว่าสภาพจิตเราเป็นอย่างไร ? ขณะที่เรากาลังฟัง จิตเราเป็นอย่างไร ? ฟังด้วยจิตประเภทไหน ? เห็นไหม การดูอารมณ์ปัจจุบัน
แล้วเสียงที่เกิดขึ้นมาในขณะที่เราฟังธรรม จะมีลักษณะการพิจารณา อยู่สองส่วน หนึ่งก็คือว่า ฟังเพื่อที่จะรู้เรื่องในเสียงที่ได้ยินว่าพูดอะไรบ้าง รู้เนื้อความเพื่อจาเอาไว้ และจะนาไปพิจารณาต่อ หรือจะปฏิบัติต่อไป อีก


































































































   247   248   249   250   251