Page 254 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 254

230
รู้ดูอารมณ์ปัจจุบันให้ต่อเนื่อง เนือง ๆ บ่อย ๆ ทุกวัน ๆ ทาซ้า ๆ ซ้า ๆ เดี๋ยวก็เต็ม เขาเรียก “บารมีเราเต็ม” เราก็จะ อ๋อ! เป็นอย่างนี้! เพราะฉะนั้น การปฏิบัติธรรมของเรา ที่บอกว่ามีสติรู้อยู่กับปัจจุบันอยู่เนือง ๆ ตลอดเวลา พิจารณาอยู่ อะไรขึ้นมาก็รู้ จะยืน จะเดิน จะนั่ง จะนอน จะกิน จะดื่ม ทา พูด คิด ก็มีสติกาหนดรู้
แล้วปัญหาใหญ่ของโยคี ที่ไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ก็เป็นปัญหา จริง ๆ แล้วปัญหาใหญ่ของทุกคนนั่นแหละ อยากให้มันได้ดั่งใจ อยากได้เร็ว พอ ไม่ได้ดั่งใจก็จะรู้สึกไม่ดี อะไรก็ตามที่เราอยากได้ดั่งใจไปทั้งหมด แล้วเราก็ ไม่ได้เตรียมใจว่าถ้าไม่ได้ดั่งใจแล้วจะทาใจอย่างไร การที่เราหวังผล อยาก ให้ได้ดั่งใจเรา เป็นสิ่งที่ดี คิดดี ๆ อยากให้ได้อย่างที่คิด เป็นสิ่งที่ดี แล้วเรา ก็ต้องคิดบ่อย ๆ ด้วย ตั้งจิตบ่อย ๆ อยากให้มีสติดี ๆ อยากให้สภาวะ ก้าวหน้าเร็ว ๆ อยากให้มีปัญญาเยอะ ๆ ตรงนี้ต้องตั้งจิตบ่อย ๆ ตั้งความ ปรารถนา
เวลาเรานั่งกรรมฐานที หลับตาลงปุ๊บ ตั้งจิตอธิษฐานก่อน ขอให้ บัลลังก์นี้ ข้าพเจ้ามีปัญญาเห็นสภาวธรรม ให้การปฏิบัติก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น ไป ทีนี้ว่า ขณะที่เราตั้งจิตอย่างนี้ ตอนนั่งแล้วไม่เห็นอะไร ก็อย่าหงุดหงิด! ให้เห็นว่า “ไม่เห็นอะไร” ไม่เห็นอะไรแล้วทายังไง ? ก็ทาใจ! ก็เรามาทาใจนี่ ใช่ไหม ? “ทาใจอย่างไร” อันนี้สาคัญ! ไม่เห็นอะไรแล้วทาใจอย่างไร ? ตรง นี้เราก็ต้องมา “ดูใจ” เราก่อน
ขณะนั้นพอมาดูที่ใจเรา รู้สึกว่าจิตของเราไม่ตื่นตัว เราก็เพิ่มความ ตื่นตัวให้ตัวเอง นั่นคือทาใจแล้ว ถ้ารู้สึกว่าจิตเราไม่มั่นคง ไม่ตั้งมั่น ก็เพิ่ม ความนิ่ง นิ่ง แล้วก็ตั้งใจมากขึ้น ตั้งใจมากขึ้น... สังเกตดูว่าเป็นอย่างไร ? เมื่อเราตั้งใจมากขึ้นแล้วนี่ ใจเราจะล้มอีกไหม ? เห็นไหม ตั้งใจแล้วตั้งไม่อยู่ ตั้งแป๊บเดียวก็หาย ตั้งแป๊บเดียวก็หาย... ก็ต้องดูว่าตั้งแล้วมันหาย ตั้งแล้ว มันหาย... เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น ตั้งใจที่จะดูตรงที่ “มันตั้งแล้วล้ม” นั่นแหละ ไม่


































































































   252   253   254   255   256