Page 255 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 255

231
ต้องไปหาอะไร
เวลาเราตั้งใจที่จะดู แป๊บเดียว หลับ! ตั้งใจปึ๊บ แป๊บเดียวก็หลับ! ตั้ง
แป๊บเดียวก็หลับ! เราก็ต้องดูตรงที่มันกาลังจะหลับ อีกแล้วนะ! พอตั้งขึ้น มา... อ๊ะ จะหลับแล้วนะ! เดี๋ยวเขาก็ตื่น รู้ทันเมื่อไหร่เดี๋ยวเขาก็ไม่กล้าหลับ แต่ถ้าเราตั้งใจที่จะดู พอไม่เห็นอะไรแล้วก็ เฮ้อ! ไม่เอาแล้ว ตั้งแล้วมันไม่ อยู่สักทีหนึ่ง ก็ปล่อยให้มันล้มไป หลับไป... อย่างนั้นเดี๋ยวก็ไม่เจออะไรอีก นั่นแหละ ความตั้งใจในขณะเล็กนี่ ตรงนี้เราตั้งใจดู ที่บอกว่า “ทาใจ” ไม่ใช่ ทาใจว่าแค่นี้ก็แค่นี้แล้ว ไม่เอาแล้ว อันนั้นก็อีกอย่างหนึ่ง
แต่ถ้าเราเข้าใจว่า เออ! ทาใจได้แล้ว มีก็มี ไม่มีไม่เป็นไร ฉันจะดู มันอยู่นี่แหละ ดูซิว่าจะมีอะไรเกิดขึ้น! ถ้ามีแต่ความสงบ ฉันจะดูความสงบ นี่แหละ ดูซิว่าจะสงบไปถึงไหน สงบลึกแค่ไหน สงบแล้วมันเป็นยังไง ใน ความสงบนั้นมีอะไรอีก ก็ไปค้นดู ค้นอะไร ? ก็ค้นจิตที่สงบของตัวเองนั่น แหละ ตรงนี้เขาเรียกว่า “เข้าไปดูจิตในจิต” ดูแล้ว อ๋อ! จิตเราในความสงบ นั้น นึกว่าสงบนิ ที่ไหนได้ ความไม่พอใจยังมีอยู่เลยตะหงิด ๆ ไม่พอใจใน ความสงบ แล้วเราทาไมไม่พอใจในความสงบ ? ก็ดูอีกทีหนึ่งว่าความสงบ มันไม่ดีตรงไหน
ถ้ามันเริ่มไม่พอใจ ก็ดูสิ ทาไมถึงไม่พอใจ ? ไปดับความไม่พอใจ แล้วลองดูว่า ความสงบมันดียังไง ? ความสงบมันมีกิเลสไหม ? มันเบาไหม ? มีสติดีไหม ? ความสงบนั้นบอกว่าเป็นเราหรือเปล่า ? แล้วทาไมเราต้องไม่ พอใจในความสงบ ? ขณะที่สงบ มีตัวตนไหม ? ถ้าไม่มีตัวตน แล้วทาไม ต้องกังวล ต้องกลัว ? กิเลสก็ไม่เกิด แล้วยังหงุดหงิดให้กิเลสเข้ามาแทนที่ ทาไม ? อาการที่หงุดหงิดน่ะกิเลสเข้ามาแล้ว! ก็สงบอยู่ดี ๆ แค่มีความไม่ พอใจเกิดขึ้น กิเลสเข้ามาแทนที่โดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะความอยากเกิดขึ้น มาแทน เห็นไหม เราทาเพื่อจะละกิเลส แต่เราก็ตามเขาไม่ทันอีกแล้ว เผลอ แป๊บเดียวเขามาแล้ว เพราะฉะนั้น สภาวธรรมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าอารมณ์อะไร


































































































   253   254   255   256   257