Page 279 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 279

255
เจตนาที่จะรู้ อาการเกิดดับที่ละเอียดกว่าพองยุบเขาก็จะปรากฏขึ้นมาให้ เห็น ให้ได้ตามกาหนดรู้ต่อ ยังมีสภาวะที่ละเอียดกว่าพองยุบอยู่ นอกจาก ความคิด นอกจากเวทนา
เพราะฉะนั้น เวลาเรากาหนดอารมณ์ กาหนดสภาวะให้ต่อเนื่อง ถ้า พองยุบหายไป ให้รู้ชัดว่าหายไป หายไปแล้ว มีอะไรเกิดขึ้นต่อ ? อารมณ์ ที่เกิดต่อจากพองยุบ นอกจากความคิด นอกจากอาการที่บอกมา ว่าใน ความว่างมีจุดเล็ก ๆ มีจุดใส ๆ ขึ้นมา หรือมีอาการระยิบระยับเกิดขึ้น ยัง มี “เสียง” ที่เข้ามา เสียงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงแอร์ เสียงคน เสียงลม เสียงอะไรก็ตาม ที่ปรากฏชัดเข้ามาในความว่างเมื่อพองยุบหายไป ต้องมี สติกาหนดรู้อารมณ์นั้นต่อทันที เพราะนั่นคืออารมณ์ปัจจุบันที่เราต้องตามรู้ เพราะฉะนั้น จะมีอารมณ์เข้ามาให้เรารู้ตลอด สติเราก็จะต่อเนื่องตลอด เหมือนกัน
เมื่อไม่มีเสียง ไม่มีพองยุบ ไม่มีความคิด ไม่มีเวทนา สิ่งที่ต้องรู้ต่อ ก็คือว่า “สภาพจิตใจ” ขณะนั้นรู้สึกยังไง ? สงบ เบา ว่าง ใส สว่าง หรือว่า สลัว ๆ ? เคยสังเกต เคยเห็น ใช่ไหม ? เคยเห็น แต่ไม่แน่ใจ ก็เลยไม่ได้ ตามรู้เขา เลยเหมือนกับไม่มีอะไร ที่จริงแม้แต่ความสว่างข้างหน้าเรา ความใส ความสลัว หรือเป็นเงาที่ผ่าน นั่นคืออารมณ์ที่เกิดขึ้นต่อจากพอง ยุบ หรือที่เกิดขึ้นในความว่าง เป็นอารมณ์ที่เราต้องกาหนดรู้ ดูว่าเขาเกิด ดับในลักษณะอย่างไรและต่อจากนั้นเขาจะเปลี่ยนอย่างไร ? พออารมณ์นั้น หมดไป มีอะไรเกิดขึ้นมาต่อ ?
ความต่อเนื่องของการเจริญสติอยู่ตรงนี้ มีอารมณ์ใหม่เกิดขึ้น ให้ เรามีสติตามกาหนดรู้ต่อไปเรื่อย ๆ เมื่อเรารู้ถึงอารมณ์ใหม่ที่ปรากฏขึ้นมามี การเกิดดับตลอดเวลา จิตเราก็จะไม่ยึดติดกับของเก่า ไม่ยึดติดอยู่กับอดีต ว่าต้องเป็นอย่างนั้น นี่คือ “ธัมมวิจจยะ” การสอดส่องธรรม รู้ต่อไปว่า อะไรเกิดขึ้นมา แล้วเกิดดับอย่างไร เพราะทุก ๆ อารมณ์ตั้งอยู่ในกฏของ


































































































   277   278   279   280   281