Page 298 - ธรรมปฏิบัติ 2
P. 298

274
อนุโมทนาในส่วนบุญกุศลที่เราทา
สุดท้ายนี้ ก็ขออานิสงส์ผลบุญกุศลต่าง ๆ ที่เราได้ทามาและกาลัง
ทาอยู่ จงมาเป็นตบะ เป็นพลว เป็นปัจจัย ให้เราเหล่าโยคีทั้งหลาย จงเป็น ผู้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตราบเท่าเข้าถึงมรรค ผล นิพพาน ด้วยกัน ทุกคนเทอญ
เจตนากาหนดรู้อาการเกิดดับของรูปนาม วันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
ขอความเจริญธรรมจงมีแก่โยคีผู้ปฏิบัติทุก ๆ คน วันนี้เป็นวันที่สาม แล้วที่เราได้มานั่งอยู่ตรงนี้ มาปฏิบัติธรรมกัน สามวันผ่านไปรู้สึกเป็นไง บ้าง ? จับต้นชนปลายถูกบ้างหรือยัง ? อยากจะทบทวนอีกนิดหนึ่งในการ กาหนดสภาวะในการปฏิบัติ ที่จริงพวกเราก็ปฏิบัติกันมาสักพักหรือระยะ หนึ่งแล้ว บางคนก็ปฏิบัติมานานแล้วและทาได้ดี
ทีนี้ วิธีการกาหนดอารมณ์หรือกาหนดสภาวะที่เกิดขึ้น หลายคนยัง สงสัยอยู่ว่า ที่กาหนดนั้นถูกหรือเปล่า หรือกาหนดอย่างไรถึงจะถูก และอีก อย่างหนึ่งก็คือว่า เวลาเรากาหนดอารมณ์ที่เกิดขึ้น บางครั้งไม่รู้ว่าขณะนั้น กาหนดอารมณ์อะไร หรืออารมณ์หลักที่เรากาลังตามรู้อยู่ในขณะนั้นคืออะไร อย่างเช่น ขณะที่นั่งกรรมฐาน เรากาหนดอารมณ์อะไรเป็นหลัก ? ในขณะที่ ตามรู้อยู่ เรารู้สึกว่ากาหนดอาการพองยุบเป็นหลัก หรือกาหนดอาการของ ลมหายใจเข้าออกเป็นหลัก ? ตรงนี้จะต้องรู้ชัดในขณะนั้นเลยว่าเรากาลัง ตามรู้อาการอะไรอยู่ จะต้อง “รู้ชัดทันที”
จุดสาคัญที่สุดสาหรับการปฏิบัติวิปัสสนา มี “เจตนา” อย่างเดียว คือ กาหนดรู้ว่าอาการที่เกิดขึ้นมานั้น เกิดและดับในลักษณะอย่างไร ? ไม่ ว่าอารมณ์นั้นจะเป็นอาการของพองยุบ อาการของลมหายใจเข้าออก เป็น


































































































   296   297   298   299   300